pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จากใจผู้เขียน

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนพัทยา หรือชลบุรีโดยกำเนิด หรือเป็นคนต่างถิ่น มาอยู่พัทยา หรือตกกระไดพลอยโจนมาพำนักพักอาศัยในพัทยาหรือกำลังคิดที่จะมาอยู่พัทยา คุณก็เป็นคนหนึ่งที่ควรอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะมีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองพัทยาอย่างครบถ้วน มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมืองพัทยาทั้งทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยว สังคมคนพัทยาและอนาคตของพัทยา ที่เชื่อว่า บทความและเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้บ้าง


วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มหาขันทีโลกสวย


https://www.thairath.co.th/content/1446880




เค้าเดิมของนิทานเรื่องนี้ อยู่ในประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย ผมเคยเอามาเล่าไปแล้ว เล่าใหม่คราวนี้ ขออนุญาตดัดแปลง เป็นประเทศจีน สมัยเคี่ยนหลงฮ่องเต้

ฮ่องเต้เคี่ยนหลง มีปกติอำพรางเป็นคนสามัญ หลบจากพระราชวังไปดูทุกข์สุขชาวบ้าน วันหนึ่ง ถึงกำหนดเสด็จ ฝนเกิดตกหนัก ทรงถามมหาขันที อุ้ยเสี่ยวป้อ “ฝนตกอย่างนี้ ดีหรือไม่”

“ดีพ่ะย่ะค่ะ” อุ้ยเสี่ยวป้อกราบทูล “หลังฝนตก ถนนหนทางจะสะอาด อากาศจะแจ่มใส พระองค์ก็จะทรงชื่นชมทิวทัศน์ได้บ้านเมืองสวยงามกว่าเดิม” ฮ่องเต้พอพระทัย

ขณะเตรียมเสด็จนอกพระราชวังครั้งต่อไป อากาศร้อนระอุมาก เคี่ยนหลงฮ่องเต้เหงื่อออกท่วมกาย เสื้อด้านหลังเปียกโชก ทรงหันไปถามมหาขันที

“ร้อนขนาดนี้ จะออกไปข้างนอกดีไหม...”

“ดีพ่ะย่ะค่ะ” อุ้ยเสี่ยวป้อ กราบทูลคำเดิม “อากาศร้อนอย่างนี้ ไม่ค่อยมีในบ้านเมืองเรา ถ้าเสด็จออกไป พระองค์จะได้เข้าใจความทุกข์ของราษฎรได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”

ทุกครั้งกระทั่งการเสด็จประพาสเพื่อล่าสัตว์ในป่า... เพื่อให้เกมการล่าสนุกเร้าใจ เคี่ยนหลงฮ่องเต้ โปรดให้อุ้ยเสี่ยวป้อติดตามไปคนเดียว

ระหว่างการล่าสัตว์ครั้งนั้น ฮ่องเต้ทรงเผลอ เครื่องมือล่าสัตว์ ตัดนิ้วหัวแม่มือขาด ทรงถามอุ้ยเสี่ยวป้อ “นิ้วข้าขาด เจ้าว่ายังเป็นเรื่องดีหรือไม่...”



อุ้ยเสี่ยวป้อกราบทูล “ดีพ่ะย่ะค่ะ” เคี่ยนหลงฮ่องเต้กริ้วมาก คิดว่าอุ้ยเสี่ยวป้อซ้ำเติม สั่งให้ทหารจับมหาขันทีไปขัง

ทรงตามไปเยี่ยมแล้วทรงถาม “ตอนนี้ เจ้าอยู่ในคุก เจ้ายังจะว่า “ดี” อีกหรือเปล่า...”

อุ้ยเสี่ยวป้อกราบทูลย้ำว่า “ดี ดีมากพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้พิโรธหนัก “เมื่อเจ้าบอกว่า อยู่ในคุกดี ก็ควรอยู่ในคุกต่อไป”

สองสามวันต่อมา ถึงเวลาเสด็จประพาสล่าสัตว์ เคี่ยนหลงฮ่องเต้ยังผูกพระทัยโกรธ จึงตัดสินพระทัยไม่ง้ออุ้ยเสี่ยวป้อ เสด็จประพาสป่าพระองค์เดียว

เรื่องแปลก สัตว์ป่าที่ทรงเคยล่าได้ ก็ไม่มีสักตัว หลายชั่วโมงผ่านไป แม้ทรงควบม้าไปทั่วทุกทิศจนพระอาทิตย์ตกดิน ฝูงนกบินกลับรัง ฮ่องเต้เพิ่งรู้ว่า พระองค์หลงป่า

ดินแดนนั้น เป็นดินแดนมนุษย์กินคน ฮ่องเต้ถูกจับมัดกับเสาไม้ คนป่ากำลังสุมไฟย่างสดพระองค์ นาทีนั้นทรงคิดถึง อุ้ยเสี่ยวป้อ...และทรงรอปาฏิหาริย์

แล้ว “ปาฏิหาริย์ก็มีจริง” พ่อมดประจำเผ่า ตรวจทั่วร่างกาย เมื่อพบว่านิ้วขาดไปนิ้วหนึ่ง แล้วประกาศเลิกพิธีบูชายัญ “สัตว์ตัวนี้ไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นมงคล พวกเรากินไม่ได้”

ฮ่องเต้รอดกลับถึงเมือง ทรงรีบเข้าคุกไปหาอุ้ยเสี่ยวป้อ

“นิ้วขาดที่เจ้าว่าดี ดีจริง ช่วยให้ข้ารอดชีวิตมาได้ ข้าขอโทษที่เอาผิดเจ้า สิ่งที่ข้าอยากรู้ เจ้าติดคุกมาสิบกว่าวัน วันนี้เจ้ายังว่าเป็นเรื่องดีอีกหรือไม่”

“ดีพ่ะย่ะค่ะ” อุ้ยเสี่ยวป้อกราบทูลหนักแน่นกว่าเดิม “ถ้าข้าไม่ติดคุก ข้าก็ต้องติดตามพระองค์ ตอนถูกมนุษย์กินคนจับ พระองค์นิ้วขาดรอด แต่ข้าร่างกายปกติ คงไม่รอด”

เคี่ยนหลงฮ่องเต้ เพิ่งทรงบรรลุความจริง ทุกสิ่งในโลกนี้ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย อยู่กับการมองของคน

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

โรคมารยาททางสังคมบกพร่อง

 มาทำความรู้จัก “โรคมารยาททางสังคมบกพร่อง” ที่กำลังระบาดหนักในสังคมไทย โดยเฉพาะในหมู่กลุ่มประชากรวัยรุ่น และ วัยทำงานในเขตเมืองใหญ่ (ในต่างประเทศพบมากในเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจเช่น นิวยอร์ก ซานฟรานฯ โตเกียว และปารีส)

อาการของโรคในขั้นแรกๆ

ผู้ป่วยจะมีอาการนิ่งเฉย ไม่ตอบสนองต่อการมีปฏิสัมพันธ์ปกติจากคนรอบข้าง เช่น การทักทาย การขอบคุณ หรือความช่วยเหลือจากภายนอก แต่ระบบประสาท (drag) ของผู้ป่วยจะมีความไวเป็นพิเศษหากเจอสิ่งเร้าในทางลบ หรือสิ่งกระตุ้นที่ตนเองไม่พอใจ โดยจะมีอาการตอบสนองอย่างรุนแรงทันทีที่ไม่ถูกใจบางสิ่ง เรียกสั้นๆ ว่า “เหวี่ยง

ในขั้นกลางของโรค

ผู้ป่วยจะไม่สามารถทำการ แสดงออกถึงมารยาทพื้นฐานเช่น การขอบคุณ การขอโทษ การรับการทักทาย การยิ้ม การตอบคำถามทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือการให้ความร่วมมือกับงานของส่วนรวมได้ และไม่สามารถแสดงความเห็นอกเห็นใจ / มีน้ำใจต่อผู้อื่นได้หากปราศจากผลประโยชน์ตอบแทน แต่เราจะพบความสามารถในการแสดงออกอย่างก้าวร้าว ด่าทอ นินทาว่าร้าย เรียกร้องความสนใจ แย่งซีนชาวบ้านมากขึ้นถึง 2.76394 เท่าของคนปกติ
ส่วนในขั้นสุดท้ายของโรค
ผู้ป่วยจะมีอาการ ต่อต้าน สังคมอย่างเห็นได้ชัด เหตุ+ผล จะหายไป โดยสัญชาตญานของความเห็นแก่ตัวจะเข้ามาแทนที่ อาการภายนอกเห็นได้จากหน้าตาที่บูดบึ้งโกรธเคืองตลอดเวลาในทุกสถานการณ์ บางรายมีท่าเดินที่ดูแปลกผิดปกติ อันเกิดจากจากบุคลิกภาพที่เสื่อมไปจากการไม่แคร์ภาพลักษณ์ของตน
ผู้ป่วยจะมีแรงกระตุ้นอย่างรุนแรงที่จะต่อต้านกติกามารยาทของสังคม หรือต้องการแสดงวาจาก้าวร้าวต่อผู้อื่นโดยไม่มีสาเหตุอันควร รวมถึงการแสดงความดูถูก เหยียดหยาม พูดจาตอกหน้าต่อผู้อื่นด้วยความตั้งใจ โดยเฉพาะกับคนที่ทำดีต่อผู้ป่วยก่อน เช่น เปิดประตูให้ ลุกให้ที่นั่งบนรถประจำทาง กล่าวคำทักทาย นำของขวัญมาให้ หรือแสดงความเป็นมิตรความใส่ใจห่วงใยต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ และผู้ป่วยบางรายมักเกิดความพึงพอใจเมื่อได้ค่อนขอดคนที่ทำดีในสังคมว่า สร้างภาพบ้าง โลกสวยบ้าง

บุคคลที่เข้าข่าย

มีอาการคิดว่าตัวเองสำคัญที่สุดในโลก คือมองว่าตนเองสำคัญเกินกว่าจะต้องลดตัวเองไปทำดีกับใคร ตัวเองสำคัญจนไม่จำเป็นต้องเคารพกติกามารยาทกาละเทศะใดๆ ในสังคม เพราะเป็นหน้าที่ของคนรอบข้างที่ต้องคอยมาเอาอกเอาใจตัวเพียงถ่ายเดียว
ส่วนกลุ่มที่สองมักมีปมด้อยดูถูกตัว เองอย่างสุดขีดจึงเกิดแรงผลักดันที่จะ…ไสความรู้สึกแย่ของตนไปให้ผู้อื่น ได้รับทุกข์ทรมาณด้วยเพื่อความสะใจลึกๆ หรือชอบอวดตัวเองอย่างบ้าๆ บ๊องๆ ขายความเสร่อสร้างความรำคาญ / อนาถใจแก่ผู้พบเห็น
ความร้ายแรงของโรค
หาก ไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดผลร้ายแรงจนขึ้นคาน หรือไม่มีใครคบตลอดชีวิตได้ สังคมรังเกียจ ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย ในรายที่เป็นหนักหนามากอาจถูกมองด้วยสายตาอันขยะแขยงรังเกียจได้

การรักษา
– ในผู้ป่วยระยะเริ่มต้นและปานกลาง แก้ไขอาการของโรคให้ทุเลาลงได้ด้วยการ
1. ยิ้ม
2. หัดพูดคำว่า “ขอบคุณครับ/ค่ะ” “ขอโทษครับ/ค่ะ” และ “ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ” อย่างจริงใจให้เป็นนิสัย
3. นึกถึงใจเขาใจเราให้มากขึ้นว่าถ้าตนเองเป็นผู้ถูกกระทำอย่างไร้มารยาทบ้างจะรู้สึกแย่อย่างไร เพื่อจะได้ไม่ทำกับคนอื่น
4. กับผู้ป่วยที่มีอาการเดียวกัน ให้คุณใช้เทคนิคขั้นสูงที่เรียกว่าการ “ช่าง แมร่งง” เพื่อป้องกันการดราม่าอันอาจนำไปสู่การติดต่อของโรค
5. การนั่งสมาธิ / ปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนาที่เรานับถือสามารถลดความรุนแรงของอาการได้
– ในผู้ป่วยที่มีอาการร้ายแรง แนะนำให้งดหรือลดการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิรค์ลงสักช่วงหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้นิสัยชิงดีชิงเด่น เรียกร้องความสนใจและพฤติกรรมก่อกวนสังคมเกิดกำเริบรุกลาม และออกไปมีเพื่อนจริงๆ ที่ไม่ประสาทบ้าง
– แต่หากในครึ่งปีอาการไม่ดีขึ้นผู้ป่วยควรไปพบจิตแพทย์ (ได้แล้ว)
ขอบคุณที่มาจาก jitsook

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2561

รับจ้าง สร้างเว็บ สร้างบล็อก สร้างและดูแลเพจ จ้า

ราคาค่าแปลเอกสาร

ลำดับที่
ประเภทเอกสาร(ราคาต่อหน้า)
อังกฤษเป็นไทย 
ไทยเป็นอังกฤษ
1
บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่, พาสปอร์ต
200
300
2
ใบเปลี่ยนชื่อ, ใบเปลี่ยนนามสกุล
200
300
3
ใบสำคัญการสมรส, ใบสำคัญการการหย่า
200
300
4
สำเนาทะเบียนบ้าน
150
200
5
ใบประกาศนียบัตร,ใบปริญญาบัตร
200
300
6
โฉนดที่ดิน จดหมายติดต่อ บริษัท หน่วยงาน สถานทูต
200
300
7
ตรวจสอบงบดุลบริษัท, จทบ.บริษัท
200
400
8
สูติบัตร, มรณบัตร, ทะเบียนสมรส, ทะเบียนการหย่า
200
300
9
เอกสารทะเบียนราษฎร์ทั่วไป
200
300
10
ชุดจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
200
300
11
วิทยานิพนธ์  บทคัดย่อ งานวิจัย( อังกฤษเป็นไทย)
200
300
12
โครงการศึกษา วิศวกรรม วิจัย
200
300
13
ใบเสร็จประปา,ไฟฟ้า,โทรศัพท์, โรงพยาบาล ฯลฯ
150
200
14
ใบแพทย์ ปจว. ตำรวจ ลายมือเขียนอ่านยาก เอกสารมืดมัว
300
400
15
ใบแสดงผลการศึกษา ปวช. ปวส
300
500
16
บันทึก ปค.14 , คำสั่งศาล,คำพิพากษา, คำฟ้อง
300
500
17
สัญญา เอกสารประมูลงาน โฆษณา เสนอซื้อขาย
300
500
18
เอกสารงานเทคนิควิชาการ เป็นตารางซับซ้อน
300
500-700
19
คำบรรยายประกอบภาพเครื่องจักร อุปกรณ์
300
500-700
20
โบรชัวร์ ประกอบภาพและคำบรรยายในที่จำกัด
300
500-700
21
บทความวิชาการตัวเล็ก บรรทัดถี่ หรือสองคอลัมน์
500
700-800
22
ใบตราส่งสินค้า แบบฟอร์มศุลการกร สรรพากร
500
700-800
23
เอกสารตัวเล็ก หน้าหนึ่งมี 2-3 คอลัมน์ บรรทัดถี่  เช่นตำราวารสารวิชาการ
500
800
24
เอกสารตัวเล็ก จากนิตยสาร เช่น Time, Newsweek 
500
900
25
คอลัมน์หนังสือพิมพ์ และหนังสือพิเศษอื่นๆ

500
700-900

หมายเหตุ   : ราคา หน่วยเป็น บาท
(ราคานี้เป็นราคาปรกติเวลาที่ใช้แปลขึ้นกับปริมาณงาน ถ้าต้องการด่วนคิดค่าบริการพิเศษเพิ่ม )
การจัดส่งให้ผู้รับแปล : ส่งทางอีเมล์ / Facebook / line
โปรดสเแกนส่งทางอีเมล์)เพื่อเสนอราคา หากถ่ายภาพ (ภาพต้องชัดเจน อ่านได้เหมือนสแกน)
การจัดส่งกลับไปให้ผู้จ้างแปล : ส่งทางอีเมล์
หากต้องการเป็นงานปริ้นท์
ค่าส่งธรรมดา หรือEMS คิดตามราคาจริงจากไปรษณีย์ไทย

ที่อยู่ติดต่อ
E-mail:  englishthai2012@gmail.com
Tel: +66+086-138-3113
หรือแอดส่งงานแปลด่วนได้ที่
FACEBOOK ค่ะ

วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

พระนาง แอนด์ โบลีน


วิญญาณหัวขาดสุดเฮี้ยน ของแอนน์ โบลีน ราชินีอังกฤษ

แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) ถือได้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่มีความเฮี้ยนมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ โดยมีตำนานที่เป็นเรื่องจริงเป็นเครื่องการันตี โดยภาพที่ผู้คนมักได้เห็นความสยดสยองก็คือ ร่างขององค์ราชินิที่ไม่มีศรีษะนั่งอยู่บนรถม้าที่ไม่มีหัวหรือไม่ก็ปรากฎอยู่บนหอคอยลอนดอน
https://teen.mthai.com/variety/81648.html