pearleus

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สนุกกี้ ตอนที่ 2 มาม่าซัง

ชีวิตที่ยังต้องดิ้นต่อไป
ชีวิตรักของฉันและทอม เต็มไปด้วยความสุข จนกระทั่งเมียของทอมบินมาจากอังกฤษและโผล่พรวดเข้ามาในคอนโดวันหนึ่ง พระเจ้าช่วย มันเป็นประสบการณ์ที่ฉันไม่มีวันลืมเลือนที่เค้าเรียกผู้หญิงเวลาโกรธว่า tigress!( อ่านว่าไท้เกรสส์ แปลว่าเสือตัวเมีย โหดร้ายและพร้อมที่จะตะปบเหยื่อนั่นแหละ) ยายคนนี้นี่ สุดยอดน่ากลัวยิ่งกว่าเสืออีก ฉันไม่มีทางเลือก นอกจากเก็บของย้ายออกจากคอนโดของทอม ตั้งแต่นาทีนั้น  นายนั่นไม่ทำห่าอะไรเลย นั่งจ๋องอยู่มุมห้อง!!

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พอล ไครน์ ฆาตกรโหดซุกซ่อนตัวในพัทยา ถูกรวบติดคุก 32 ปี !!




นัก ฆ่าเมืองผู้ดี นาย พอล ไครน์ [Paul Cryne] อายุ 62 ปี แอบแฝงหากินอยู่ในเมืองพัทยาโดยล่าสุด เปิดบริษัทเซฟตี้ รักษาความปลอดภัย เจ๊งเป็นหนี้เป็นสิน รับจ้างเพื่อนวางแผนฆ่าโหดเมียเอาเงินประกัน ในที่สุดถูกรวบตัวจนต่อหลักฐาน ศาลสั่งติดคุก 32 ปี ฆาตกรโหดยอมรับชะตากรรมว่าต้องตายในคุก

ไม่มีหลักฐานปรากชัดว่านาย พอล ไครน์ และ นายเกรแฮม เบิทชวูด ผู้จ้างวานเป็นเพื่อนกันมานานเท่าไหร่
นาย พอล ไครน์ ผู้รับคำสั่งฆ่า ได้บินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2007 โดยเขาได้ไปพักอยู่ที่บ้านแม่ของ นายเกรแฮม เบิทชวูด ผู้จ้างวาน สองเดือนก่อนที่จะลงมือสังหารโหดโดยในขณะนั้นนายเกรแฮม เบิทชวูด ผู้จ้างวานเองก็อยู่ในบ้านหลังเดียวกันนี้
สองวันก่อนที่จะลงมือ นายไครน์ ทำทีเป็นว่าจะออกไปอยู่กับเพื่อน ในเมืองอื่น แต่ก็ยังคงอยู่ในเมือง Surrey เมืองที่เขาก่อเหตุ
นายไครน์ ก่อเหตุสยองต่อเหยื่อหลังจากเธอกลับจากการเดินทางไปช้อปปิ้งในเมือง Guildford หลังจากนั้นอีกสามชั่วโมงเขาก็มานั่งในสนามบิน Heathrow รอบินกลับเมืองไทย
นาง Birchwood ผู้เป็นเหยื่อ อายุ 52 ปีเป็นคนพิการ ขาไม่ดี ต้องเดินด้วยไม้เท้า ศพของเธออยู่ในสภาพที่สวมใส่เสื้อผ้า มีม้วนเทป ที่ใช้ปิดกล่องพัสดุ พันรอบข้อมือและข้อเท้า ปิดปากเธอแน่นด้วยเทป ศีรษะถูกพันด้วยสายไฟฟ้าหลายรอบและมีโลหะขนาดเล็กจับมาใช้ในการ กระชับสายไฟทำหน้าที่เป็นสายรัด ตำรวจสันนิษฐานว่าเธอเสียชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน
สามี ของเหยื่อ คือนายเกรแฮม เบิทชวูด (อายุ 54 ปี) ได้บอกตำรวจว่า เขาได้ส่ง Message ไปหาเธอแต่ไม่ได้รับตอบ จึงไปหาเธอที่บ้านและพบศพเธอในสภาพดังกล่าวจึงแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจสอบพบพิรุธหลายอย่าง ในที่สุดจากการสอบพยานหลักฐานต่าง ก็มากพอที่จะมัดตัวนายเกรแฮม เบิทชวูด ผู้สามีซึ่งเป็นผู้บงการ อย่างเหนียวแน่น การต่อสู้คดีในศาลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด เขาก็ถูกสั่งจำคุกตลอดชีพ และจากผลของคดีดังกล่าวทำให้สาวถึงตัวนายพอล ไครน์ ฆาตกรผู้ลงมือสังหารโหดในที่สุด
นายเกรแฮม เบิทชวูด ผู้สามีซึ่งเป็นผู้บงการ เปิดธุรกิจอยู่ในเมืองพัทยา และล้มเหลวในธุรกิจทุกอย่าง มีหนี้สินประมาณ £ 150,000 ( เกือบ 7 ล้านบาท) ทำให้เขาวางแผนชั่ว จ้างวานนายไครน์ ให้ฆ่าอดีตภรรยาโดยหวังว่าจะได้รับเงินจากประกันเนื่องจากการตายของเมียเก่า จำนวน £ 475000 (ประมาณเกือบ 22 ล้านบาท)
ทางด้านผู้ใกล้ชิดของนาง Birchwood ผู้ตายเล่าว่า เธอถูกทรยศเพราะความโลภของคนที่เธอเคยแต่งงานและอุทิศให้ถึง 30 ปี
นาง Birchwood อาศัยอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตเรียบง่าย เธอมีสุขภาพไม่ดีนัก มีสังคมกับเพื่อนฝูงน้อยและไม่มี ศัตรู เธอได้หย่ากับนายเกรแฮมมานาน 20 ปี แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยกับคนจำนวนมากและเธอปิดเป็นความลับกับครอบครัวและ เพื่อนของเธอ
พยาน บอกตำรวจว่านาง Birchwood ยังคงรักและซื่อสัตย์ต่อสามีของเธอถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานปี และเขาก็ยังคงกลับมาเยี่ยม หรือตรวจดูทรัพย์สินทุกสัปดาห์ตอนที่เขายังอยู่
ในที่เกิดเหตุ
ตำรวจค้นพบ DNA และรอยนิ้วมือของนายไครน์ฆาตกรรับจ้าง ในถ้วยที่บ้านของผู้ตาย ซึ่งลายนิ้วมือตรงกับบันทึกตำรวจจาก เมื่อปี1972 ซึ่งเขาเคยติดคุกถึงเจ็ดปี คดีกักขังหน่วงเหนี่ยวแฟนของเขาเองเพื่อเรียกค่าไถ่
ตำรวจสากล Interpol ได้บินมารวบตัวนายไครน์ถึงเมืองพัทยา โดยสืบสวนสอบสวนได้จากสมาคมชาวต่างชาติในเมืองพัทยา
นายไครน์ ฆาตกรชั่วรายนี้ เป็นนักดำน้ำระดับโลกเจ้าของสถิติ ที่ยังคงลงบันทึกใน Guinness บุ๊ค แต่สามารถสวมวิญญาณฆ่าโหดอย่างเลือดเย็นกับผู้หญิงพิการ !

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เปิดโปง!! สินบน 12.7 ล้านบาทคดี”ตุ๋ยเด็ก” ในเมืองพัทยา

สุดฉาว!! เขย่าวงการตุลาการ เกิดขึ้นในเมืองพัทยา กรณีคดีอาชญากรข้ามชาติ จอมตุ๋ยเด็ก ประวัติโชกโชน รวบได้คาหนังคาเขาถูกขังชั่วคราว ผวาคุกไทยดิ้นสุดตัวหาทางรอด ยื่นขอประกันตัวนับสิบครั้งไม่ผ่าน เจอเส้นใหญ่อ้างกิ๊กผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ เรียกค่าน้ำชา 12.7 ล้าน ประกันตัวพร้อมล้มคดีสะอาดหมดจด  จอมตุ๋ยติดเบ็ดฮุบคำโต กินได้ครึ่งทางเรื่องแดง เด้งยกทีมถึงผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2552 นาย สมิธ [นามสมมุติ] อายุ 60 ปี ชาวสวีเดน และเพื่อนชาวสวีเดนอีก หนึ่งคน ชาวอังกฤษอีกหนึ่งคน ถูกจับในวันเดียวกัน ในคดีมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ปี ถึง 3 คดีด้วยกัน ทั้งหมดถูกรวบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่าย ที่สำคัญ เป็นผลงานของหน่วยปราบปรามข้ามชาติที่ร่วมมือกันระหว่างตำรวจสากลจากกลุ่ม ประเทศสแกนดิเนเวียและยุโรป เรียกว่า หน่วย “Snapper” อันเป็นหน่วยที่เอาจริงเอาจังกับการกำจัดพวก ตุ๋ยเด็ก โดยเฉพาะ !! ทั้งสามอาชญากรถูกรวบที่บ้านเลขที่ 404/118 หมู 12 หนองปรือบางละมุง
นายสมิธและเพื่อนถูกจับกุมและขังไว้ในคุกชั่วคราว โดยนายสมิธได้ว่าจ้างทนายความจาก บริษัท สำนักงานกฎหมายที่ตั้งอยู่ในซอย D, หมู่ 10 พัทยาใต้ โดย มี น.ส.วนิดา (นามสมมุติ) เจ้าของสำนักงานได้พยายามยื่นขอประกันตัวนายสมิธ ถึง 10 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

วันหนึ่งน.ส.วนิดาถูกเพื่อน ๆ ทนายจากบริษัททนายความอื่น แนะนำให้รู้จักนางสาวลินดา (นามสมมุติ) บอกว่านางสาว ลินดา สามารถขอประกันตัวนายสมิธได้แน่นอน เพราะรู้จักและสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายหนึ่ง โดยน.ส. วนิดาได้ตกลงเรื่องเงินสินบนกับนางสาว ลินดาเป็นเงินจำนวน 3,500,000 บาท ซึ่งต่อมามีการทำเป็นข้อตกลง (ไม่มีมูลหนี้) ระหว่าง นายนภดล (นามสมมุติ) ญาติของนางสาว ลินดา กับน.ส. วนิดาโดย น.ส. วนิดากับนายนภดล ได้นำเงินตามข้อตกลงดังกล่าวไปเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ร่วมกัน หมายเลขบัญชี 157-217895-3 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2552 เป็นเงินจำนวน 3,500,000 บาท
โดยทั้งสองฝ่ายต้องลงชื่อถอนเงินด้วยกัน หากการประกันตัวสำเร็จทั้งสามคดี นางสาววนิดาจะต้องลงนามเพื่อเบิกเงินให้กับนาย นภดล ถ้าการขอประกันตัวไม่สำเร็จ นายนภดล จะต้องลงนามถอนเงินกลับไปให้นางสาววนิดา
ต่อมาปลายเดือน 30 กันยายน 2552 ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยชาวต่างประเทศตามข้อตกลง
และในวันที่ 3 ตุลาคม นางสาวลินดาก็ได้สั่งให้นางสาว วนิดาและนายนภดล ไปเบิกเงินจากบัญชีดังกล่าว จำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) เพื่อเป็นรางวัลค่าตอบแทนแก่นายนภดล