pearleus

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กำลังมองหาทางออกใช่ไหม

เส้นทางชีวิต....
มีถนนนับร้อยพันให้เราเลือกเดินทาง
แต่ถนนสายเดียวที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายได้
คือถนนที่ชื่อว่า “ กำลังใจ ”
มีบ้างมั้ย...ที่คุณเคยรู้สึกว่า ชีวิตมันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่
บางคนอาจเคยรู้สึกเบื่อหน่าย หรือไม่เข้าใจ...
นึกสงสัยว่าทำไมชีวิตเรา ถึงได้มีปัญหามากมายนักให้ตามแก้
มาก...เสียจนบางครั้งก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน...
บางช่วงในชีวิต...ก็เคยมีบ้างกับภาวะแบบนี้
เลยเข้าใจได้ดีเลยว่า ในเวลาแบบนั้น
ไม่มีอะไรที่จะสำคัญมากไปกว่าการหันมาเติมกำลังใจให้ตัวเอง
แต่เราจะทำมันได้ดีได้อย่างไร ถ้าเรายังมองตัวเองไม่ทะลุ
และมีความเข้าใจบางอย่างไม่ลึกซึ้งเพียงพอ ...?
โดยปกติแล้ว...ฉันจะเป็นคนที่ไม่ชอบเล่าหรือระบาย
เรื่องราวส่วนตัวกับใครในยามที่ชีวิตมีปัญหา...
แต่ก็เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน ที่ ณ เวลาดังกล่าว
ฉันมักจะได้รับแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
จากการสนทนาพูดคุยอย่างไม่ตั้งใจอยู่เสมอ
และคำพูดที่ดีที่สุดอันหนึ่งที่ฉันจำได้ดีจากเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งก็คือ
เรื่องเกี่ยวกับปัญหาต่างๆในชีวิต เขาพูดในทำนองว่า
...ชีวิตคนเรานั้นมีปัญหากันทุกคน...
แต่คำว่าปัญหานั้น ถ้าแยกแยะมันจริงๆ จะมีอยู่ 2 อย่าง
คือ ปัญหา ที่ใช้ในภาษาอังกฤษว่า ‘problem’ ...
กับอีกคำหนึ่ง....ที่ใช้คำว่า ‘conflict’ ...

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

you have no time to criticize others









Promise yourself to be so strong that nothing can  disturb your peace of mind.
Look at the sunny side of everything and make your optimism come true.
Think only of the best, work only for the best,and expect only the best.
Forget the mistakes of the past and press on to the greater achievements of the future.
Give so much time to the improvement of yourself that you have no time to criticize others. Live in the faith that the whole world is on your side
so long as you are true to the best that is in you!


Read All my English articles here
ดูบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ตีแผ่เบื้องหลัง "แฮ็กตู้เอทีเอ็ม" กรณีศึกษา 12 ล้านธนาคารออมสิน

ตีแผ่เบื้องหลัง "แฮ็กตู้เอทีเอ็ม" กรณีศึกษา 12 ล้านธนาคารออมสิน
*********************************************************************
เหตุการณ์โจรไฮเทคปล่อยโปรแกรมมัลแวร์เเฮ็กตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน จำนวน 21 ตู้ กวาดเงินไปกว่า 12 ล้านบาท ปรากฎเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ แม้ว่าการก่ออาชญากรรมครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับเงินในบัญชีลูกค้า แต่ก็สร้างความหวาดวิตกต่อระบบความปลอดภัยของธนาคารของเมืองไทยอยู่ไม่น้อย
ดร.โกเมน พิบูลย์โรจน์ ผู้ก่อตั้งเเละกรรมการผู้จัดการบริษัท T-NET ภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางเทคโนโลยี อธิบายว่า การยึดตู้เอทีเอ็มด้วยโปรเเกรมมัลแวร์ที่คนร้ายใช้นั้น ทำได้ 3 วิธี ดังนี้
1.ปล่อยมัลแวร์ผ่านช่องเสียบยูเอสบีที่ตู้เอทีเอ็ม
“การติดตั้งตู้เอทีเอ็มมี 2 ลักษณะคือ แบบที่ติดอยู่กับผนังภายในสถานที่ และแบบที่ติดตั้งนอกสถานที่ (Stand Alone) ซึ่งตำแหน่งของอุปกรณ์ควบคุมหรือสิ่งต่างๆภายในตู้นั้นมีโมเดลที่สามารถค้นหาได้ไม่ยากอยู่แล้ว ด้านล่างเป็นเซฟเก็บเงิน คอมพิวเตอร์อยู่ด้านบน เอทีเอ็มบางตู้หากเป็นรุ่นเก่าเป็นไปได้ว่าไม่มีระบบป้องกันที่แน่นหนา หรือส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคนร้ายสามารถเปิดได้ก็จะทำการเสียบยูเอสบีและปล่อยมัลแวร์เพื่อควบคุมตู้ในที่สุด”
2.ปล่อยมัลแวร์ผ่านระบบเน็ตเวิร์ก
“ตู้เอทีเอ็มนั้นมีการอัพเดทซอฟต์แวร์อยู่แล้ว ซึ่งซอฟต์แวร์จะถูกส่งมาจากสำนักงานใหญ่ วิธีการของแฮ็กเกอร์คือ แฮ็กเข้าไปที่สำนักงานใหญ่ของธนาคาร หรือแฮ็กเข้าไปยังแอ็คเคาท์ของผู้ดูแลระบบ ซึ่งอาจมีจำนวน 10 คนหรือ 20 คน สุ่มหาช่องโหว่หรือความผิดพลาดจากคนๆ หนึ่ง ก่อนจัดการฝังมัลแวร์เข้าไปกับตัวซอฟต์แวร์ที่จะอัพเกรดเพื่อพัฒนา หรือแก้ไขปัญหาที่ตู้เอทีเอ็ม
วิธีการนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่ไต้หวัน หลังจากฝังมัลแวร์เข้าระบบมาสักระยะ คนร้ายได้ลงมือโดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย สั่งการให้ตู้เอทีเอ็มปล่อยเงินไหลออกมาตามที่ควบคุม โดยมีทีมอาชญากรไปรอรับ อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ไม่น่าเป็นไปได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดกับธนาคารออมสิน เนื่องจากเป็นลักษณะของทีมแฮ็กเกอร์ระดับโลก”
3.ฝังมัลแวร์ ในช่วงที่มีการปรับปรุงระบบตู้เอทีเอ็ม
“ตู้เอทีเอ็มต้องมีการ Maintenance ซ่อมบำรุงดูแลรักษาหรือปรับปรุงอยู่แล้ว ยิ่งปัจจุบันธนาคารหลายแห่งกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงปรับระบบเอทีเอ็มจากบัตรแถบแม่เหล็กเป็นชิปการ์ด ซึ่งคาดว่าต้องมีการอัพเกรดระบบซอฟต์แวร์กันจำนวนมาก
การ maintenance มี 2 แนวทางคือ ธนาคารดูแลจัดการเองหรือจ้างบริษัทเอ้าท์ซอร์สดูแล คดีนี้เป็นไปได้ว่า คนร้ายอาจมีความผูกโยงกับเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเอ้าท์ซอร์ส เพื่อหาทางฝังมัลแวร์เข้าไปเพื่อยึดตู้ในที่สุด”
เมื่อสามารถฝังมัลแวร์เข้าไปที่ตู้เอทีเอ็มอันเปรียบเสมือนกับการยึดตู้ได้สำเร็จ ขั้นตอนต่อมาคือ วิธี"นำเงินออกมา"
ดร.โกเมน บอกว่า โดยทั่วไปทุกครั้งที่มีซ่อมบำรุง ปรับปรุง หรือแม้กระทั่งเติมเงินในตู้เอทีเอ็ม จำเป็นต้องการทดลองระบบเพื่อตรวจดูความถูกต้องเสมอ
“เวลาพนักงานนำเงินจากธนาคารไปใส่ในตู้จำนวน 2 ล้านบาท ก็ต้องมีการเทสระบบ ใส่เงิน เบิกเงิน เพื่อดูว่าระบบใช้งานอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งการเทสระบบเช่นนี้เป็นเรื่องระหว่างคนกับตู้เท่านั้น ไม่ได้ติดต่อกับธนาคาร ธนาคารรับรู้เพียงว่า ถ้าเติมเงินครบ 2 ล้านก็จบ ฟังก์ชั่นทดสอบพวกนี้ ปัญหาคือ หลังจากโจรยึดตู้ได้แล้ว มันก็จดจำรหัสโค้ดจากบัตรซึ่งเป็นฟังก์ชันพิเศษสำหรับพนักงานผู้เทสระบบ ก่อนจะกดโค้ดใส่ตู้เอทีเอ็มเพื่อให้เงินไหลออกมาตามใบสั่ง
พฤติกรรมของมิจฉาชีพที่ทำกับธนาคารออมสินนั้น สังเกตได้ว่า คนร้ายจะค่อยๆ ทยอยกดเงินจำนวนไม่มากนักต่อตู้ ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ต่างจังหวัด เเละก่อเหตุเฉพาะเครื่องที่ติดตั้งนอกสถานที่ หรือ Stand Alone เท่านั้น"
ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ บอกว่า ธนาคารจะทราบว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อก็ต่อเมื่อจับสังเกตได้ว่าจำนวนเงินภายในตู้นั้นหมดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ
“ทยอยกดทีละ 2 หมื่น 4 หมื่น แบงค์ไม่รู้หรอก เพราะไม่มีประชาชนเสียหาย จะรู้ก็ต่อเมื่อ มีคนไปกดแล้วเงินไม่พอ ตู้ส่งสัญญาณเตือนไปยังแบงค์ ถ้าแบงค์เห็นว่า เฮ้ย...เพิ่งเติมเงินไปไม่นานนี้เอง จะหมดได้อย่างไร แล้วมีการตรวจสอบจริงจังนั่นแหละถึงทราบว่าตัวเองโดนเข้าให้แล้ว สาเหตุที่เลือกต่างจังหวัดก็เพราะตู้ไม่ได้เติมเงินบ่อย กว่าจะจับสังเกตได้ก็ใช้เวลา ผิดกับตู้เอทีเอ็มในกทม. ที่มีการใช้งานอย่างเป็นประจำ เรื่องมันจะแดงไว งานนี้เหมือนโจรปล้นแบงค์ เพราะประชาชนไม่ได้เดือดร้อน”
ดร.โกเมน ทิ้งท้ายว่า คดีนี้ต้องรู้ให้ชัดก่อนว่าคนร้ายใช้ช่องทางใด เพื่อหาแนวทางป้องกันที่แน่ชัด ซึ่งต้องทำการอัพเกรดซอฟท์แวร์ทางด้านความปลอดภัยและจัดการกับไวรัสมัลแวร์ทุกตู้เอทีเอ็ม นอกจากนั้นก็จำเป็นต้องพยายามปิดจุดอ่อน ช่องโหว่ และพัฒนาประสิทธิภาพความปลอดภัยของระบบอย่างต่อเนื่องและเข้มงวดต่อไป
“ภัยพวกนี้เกิดขึ้นมาแล้วในหลากประเทศ ทั้ง ไต้หวัน มาเลเซีย ญี่ปุ่น ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับโลกอนาคต อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคดีที่ไทยเราโดนไปแค่ 21 ตู้ 12 ล้านบาทเท่านั้น”
เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า วันที่เทคโนโลยีกำลังก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ใช่แค่ความปลอดภัยเท่านั้นที่ถูกยกระดับ แต่กลวิธีการโจรกรรมก็ร้ายกาจมากขึ้นเช่นเดียวกัน


ดูบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สรุปขั้นตอนที่แฮ็กเกอร์...ขโมยเงินจากบัญชีคนอื่น

📌 สรุปขั้นตอนการขโมยเงินจากบัญชีคนอื่นที่เปิดบริการทำธุรกรรมทางการเงิน แบบ online
1. รู้เบอร์โทร เป้าหมาย
2. ได้เลขบัตรประชาชน เป้าหมาย
3. รู้บัญชี ธนาคาร เป้าหมาย
4. ปลอมบัตรประชาชน เป้าหมาย
5. เอาบัตรประชาชน เป้าหมายไป ยกเลิกซิม เป้าหมาย
6. ออกซิมใหม่ ซิมเป้าหมายถูกตัด
7. โทรไปหลอก Call Center Cyber Banking เพื่อขอ ให้ปลดล็อค และ Reset รหัสผ่านใหม่
8. โอนเงิน ออกจากบัญชีเป้าหมาย
9. จบเห่!! 🔚



ดูบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อาชีพนักสืบฝรั่งทำงานกันยังไง


ลองมาดูกรณีศึกษาเกี่ยวกับผู้หญิงบาร์ถูกสะกดรอยโดยสามีฝรั่งดูบ้างนะคะ ดิฉันมีโอกาสได้รู้จักทั้งสองฝ่าย จึงขอเล่าให้ฟังเป็นเคส ไป


 คนแรกที่จะเล่าให้ฟังคือฝรั่งชื่อเบริ์ท มาเที่ยวเมืองไทยจนเงินหมด ส่วนใหญ่หมดไปกับผู้หญิงและการดื่ม เที่ยว เบริ์ทเป็นขา ประจำที่เที่ยวในกรุงเทพฯ เช่น แถวนานาพลาซ่า โรงแรมเกรซ เทอร์เม่ ซอยคาวบอย ฮาร์ดร็อคคาเฟ่ โนโวเทล สปัสโซ่ รีว่าส์ หรือซอย 7 เบียร์ การ์เด้นตลอดจน บาร์อะโกโก้ แถวพัฒน์พงษ์ เบริ์ทจัดเป็นนักเที่ยวผู้ทะลุปรุโปร่ง เบริ์ทจึงเข้าใจธรรมชาติ นิสัยและความต้องการของผู้หญิงบาร์ เป็นอย่างดี

ในขณะที่เบริ์ทกำลังหมดตัว ไม่มีเงิน วันหนึ่งเขาก็เจอเกย์ฝรั่งคนหนึ่ง ในบาร์ เสนองานนักสืบให้เขาทำ งานนี้ทำให้เขาได้เที่ยวเหมือนชีวิตปรกติ คอยสืบพฤติกรรมของผู้หญิงแฟนฝรั่ง ว่าในขณะที่แฟนไม่อยู่เธอ เหล่านั้นได้แอบกลับไปทำงานตามบาร์ต่าง หรือแอบมีแฟนฝรั่งหรือแฟนไทยหรือเปล่า

เบริ์ทตกลงรับงานนักสืบนี้ทันทีเพราะเขาเป็นนักเที่ยวอยู่แล้วงานนี้ทำให้เขาได้เที่ยวฟรีโดยลูกค้าคือสามีหรือแฟนของผู้หญิงตกลงยอมจ่ายค่าจ้างเป็นครั้ง ไป เบริ์ทเรียกตัวเองว่าเป็น”ferret”เหมือนตัวพังพอนที่ขุดคุ้ยหาเหยื่ออย่างเชี่ยวชาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ลึกลับ ตามซอกมุมต่างๆ
  

เมื่อธรรมดามาถึง รู้ให้ทันและทำให้ถูก

เมื่อธรรมดามาถึง รู้ให้ทันและทำให้ถูก (6)
พระเทพคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)
แปลความว่า "อายุสังขารจะพลอยประมาทไปกับมนุษย์ทั้งหลายที่ ยืน เดิน นั่ง นอนอยู่ก็หาไม่" หมายความว่ามนุษย์ทั้งหลายนี้อาจจะมีความประมาท ยืน เดิน นั่ง นอน ไม่ขวนขวายทำสิ่งที่ควรทำอยู่ ปล่อยเวลาผ่านไป แต่ในเวลานั้น ให้เข้าใจเถิดว่าอายุสังขารของเราหาได้ประมาทตามเราไปด้วยไม่ คือ อายุสังขารของเราเป็นไปตามหลักไตรลักษณ์ มีความไม่เที่ยง มีความทุกข์ทนอยู่ไม่ได้ และมีความเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจของเรา มันเป็นอยู่ตลอดเวลา ก็เปลี่ยนแปลงของมันไปไม่หยุดยั้ง เมื่ออายุสังขารเปลี่ยนแปลงไปตกอยู่ในคติธรรมดาอย่างนี้ตลอดเวลา เราจึงไม่ควรประมาท ไม่ควรนิ่งเฉย ท่านจึงกล่าวต่อไปอีกว่า ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส กิจฺจกโร สิยา นโร น จ มชฺเชติ
แปลความว่า เพราะฉะนั้น ในชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ คนเราควรกระทำกิจหน้าที่ของตนและไม่พึงประมาท อันนี้คือการที่จะนำเอาความรู้เท่าทันธรรมดานั้น มาใช้ในทางที่เป็นกุศล เป็นประโยชน์
ทางพระศาสนานั้น กล่าวถึงคติธรรมดาในทำนองเช่นนี้ ไม่เฉพาะความตายเท่านั้น ได้กล่าวแล้วว่า ความตายเป็นของคู่กับความเกิด และพระศาสนานั้นไม่กล่าวถึงความเกิดมากนัก ถ้ากล่าวก็มักจะกล่าวในทางที่เตือนสติมนุษย์อีกว่า ความเกิดนั้นนำมาหรือนำไปสู่ความตาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความขวนขวายไม่ประมาทเช่นเดียวกัน คือถ้าหากพระพุทธศาสนาจะกล่าวถึงความเกิดในทำนองเดียวกับที่สนองความต้องการของมนุษย์ ก็จะเป็นเครื่องยั่วยุมนุษย์ให้มีความมัวเมาประมาทยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น ท่านไม่พยายามที่จะสนองความต้องการนี้ แต่ท่านกล่าวในทางตรงข้าม เพื่อจะเร่งเร้าให้เป็นไปในกระแสที่ไหลไปสู่คุณธรรม และท่านก็จะให้คติเพิ่มเติมต่อไปอีก อย่างพุทธพจน์ในพระธรรมคาถาหนึ่ง ที่กล่าวถึงมนุษย์ที่เกิดมา ก็กล่าวถึงในทำนองที่ว่า ให้ขวนขวายในการบำเพ็ญกุศลกรรมอีก ดังบาลีว่า
ยถาปิ ปุปฺผราสิมฺหา กยิรา มาลาคุเฬ พหู
เอวํ ชาเตน มจฺเจน กตฺตพฺพํ กุสลํ พหฺ
แปลความว่า ดอกไม้ที่สุมกันอยู่เป็นกองนี้ นายช่างที่ฉลาดสามารถนำเอามาร้อยกรองเป็นพวงมาลัยที่สวยงาม มีคุณค่าได้ฉันใด ชีวิตคนเราที่ได้เกิดมานี้ ก็ควรจะใช้ประกอบกุศลกรรมความดีให้มากฉันนั้น
เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสถึงความเกิด ก็หมายความว่าพระพุทธองค์ไม่ได้ตรัสในทางที่สนองความต้องการให้เกิดความลิงโลด สนุกสนานดีใจ แต่เตือนใจให้มีความไม่ประมาทเช่นเดียวกัน มองความเกิดก็มองในแง่ไม่ประมาท ใช้ชีวิตนี้ทำกุศลทำความดีให้มากหรือถ้าจะให้มองความตาย ก็มองในแง่ที่จะเร่งเร้าให้ทำความดี ทำประโยชน์เช่นเดียวกัน
นำโอกาสและเหตุการณ์มาใช้ในการทำให้เกิดคุณเกิดประโยชน์
วันนี้ คณะท่านเจ้าภาพผู้เป็นญาติมิตรได้มาร่วมการบำเพ็ญกุศลอุทิศให้ท่านผู้วายชนม์ ด้วยระลึกคุณและมีจิตใจหวังดีปรารถนาประโยชน์ต่อท่าน แต่คุณประโยชน์และพิธีกรรมนั้นก็มิได้จำกัดด้วยคุณค่าเพียงเท่านั้น มีคุณค่าขยายเพิ่มพูนไปแก่ทุกคนที่ได้มาร่วมพิธี ในทางที่เป็นเครื่องเจริญสติ เจริญปัญญาอีกด้วย อันนี้ก็เท่ากับความหมายที่อาตมภาพได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า พุทธศาสนิกชนนั้น เมื่อมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น จะเป็นเหตุการณ์ที่น่าพึงพอใจก็ตาม ไม่น่าจะพอใจก็ตาม ก็สามารถและพยายามนำเอาโอกาสและเหตุการณ์นั้นมาใช้ในการทำให้เกิดคุณ เกิดประโยชน์ เกิดกุศลมากยิ่งๆ ขึ้นไป
ท่านผู้วายชนม์ได้ล่วงลับไป แล้ว แม้ตามวิสัยของปุถุชน การตายย่อมเป็นธรรมดาที่ไม่น่าปรารถนา เป็นเหตุก่อความทุกข์ ความโศกเศร้าแก่บุคคลผู้เคารพนับถือ ผู้รักใคร่ แต่ในเมื่อเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ได้เป็นไปแล้ว พุทธศาสนิกชนก็นำมาก่อให้เกิดคุณค่า เกิดประโยชน์ด้วยการบำเพ็ญกุศลตามหลักพระศาสนา
ดังปรากฏในที่เฉพาะ หน้านี้ ซึ่งคุณประโยชน์เกิดขึ้นได้ก็ด้วยอนุสติและบุญกิริยาต่างๆ หมายความว่า ความตายของผู้ล่วงลับนั้นไม่ได้เป็นความตายที่ผ่านไปเพียง เฉพาะตัวท่าน แต่ยังก่อคุณค่าเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นที่รู้จักระลึกถึงความตายนั้น ด้วยจิตใจที่ถูก ด้วยท่าทีที่ชอบด้วย คือทำให้เกิดความไม่ประมาทเร่งขวนขวายทำความดีงาม ตลอดจนความรู้เท่าทันธรรมดาที่จะทำให้ระงับหายคลายจากความทุกข์ จากความโศกเศร้านั้นและเกิดคุณค่าด้วยการประกอบบุญกิริยาต่างๆ ที่เป็นเรื่องของทาน ศีล ภาวนา...(มีต่อ)

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สามีจอมเจ้าชู้ทั้งหลาย...โปรดอ่าน!

บันทึกเรื่องนี้เมื่อ 2/9/2015

ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่บรรดาสามีที่แอบนอกใจภรรยากำลังมีความทุกข์อย่างหนัก!
สามีจอมเจ้าชู้เหล่านี้คือพวกที่สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์แอบหากิ๊กAshleyMadison.com หลังจากเว็บไซต์ถูกแฮ็กเกอร์หรือนักเจาะล้วงข้อมูลเข้าระบบได้สำเร็จ แล้วนำข้อมูลสมาชิกกว่า 32 ล้านคนทั่วโลกออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ข้อมูลลับที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไปเปิดเผยให้เห็นตัวเลขของทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีหัวใจไม่มั่นคงดังนี้
สัดส่วนของสมาชิก เป็นผู้ชายประมาณ 28 ล้านคน และผู้หญิง 5 ล้านคน
ทำให้เว็บไซต์ช่วยหากิ๊กที่ว่านี้ทำรายได้มหาศาล
เมื่อปีที่แล้วเพียงปีเดียว ทำรายได้ถึง 115 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,700 ล้านบาท!
หลังจากเว็บไซต์ AshleyMadison.com โดนเจาะข้อมูลสมาชิกออกมาเปิดเผย ก็มีเว็บไซต์หลายเว็บ ทำลิงก์บริการให้คนสามารถเข้าไปเช็กได้ว่าสามีภรรยา คนรักหรือคนรู้จัก แอบไปสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์AshleyMadison.com รึไม่!!!
ตามข่าว หลังจากความลับเรื่องการนอกใจถูกเปิดเผย (หรือจะเรียกว่าถูกประจานก็คงไม่ผิดนัก) ทำให้สามีภรรยาหรือคู่รักบ้านแตกไปแล้วหลายคู่

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หมอดูตาบอดชื่อดังของโลก ทำนายหายนะที่จะเกิดกับโลกปี 2016 และในอนาคต



บาบา วานกา (Baba Vanga) หมอดูตาบอดชื่อดังชาวบัลแกเรีย ที่มีฉายาว่า นอสตราดามุสแห่งบอลข่าน ผู้ที่ถูกร่ำลือว่าทำนายเหตุการณ์สำคัญของโลกถูกมาแล้วมากมาย เช่นเรื่องที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่ 21 คงหนีไม่พ้นโศกนาฎกรรม 9/11 ที่ยายแกทำนายว่า จะมีนกเหล็ก 2 ตัว โจมตีชาวอเมริกัน หรือแม้แต่การขึ้นเป็นประธานาธิบดีของ บารัค โอบามา ก็เช่นกัน ที่ยายบาบา ทำนายว่า อเมริกาจะได้ประธานาธิบดีคนที่ 44 เป็นเป็นลูกครึ่ง แอฟริกัน-อเมริกัน

ในอดีตที่ผ่านมา มีนักวิจัยของบัลแกเรีย ติดตามผลการทำนายกว่า 7 พันเหตุการณ์ของคุณยาย ซึ่งกว่า 80% เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แน่นอนว่ามันเกินระดับที่จะบอกว่า เกิดจากบังเอิญได้

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เก็บมาฝากค่ะ 20 ประการ เตรียมบ้านให้พร้อมก่อนน้ำท่วมใหญ่

เมื่อน้ำเหนือก้อนใหญ่กำลังไหลเข้าสู่เมืองหลวง หลายฝ่ายกำลังสู้รับมือภัยพิบัติ ถึงเวลาที่เราต้องพึ่งพาตัวเอง ด้วยการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือเหตุน้ำท่วมกับ "บัญญัติ 20 ประการ เตรียมบ้านก่อนน้ำท่วม" โดย อ.ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์...

เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยรัฐออนไลน์ได้รับบทความจากอาจารย์ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ สถาปนิกผู้ดำเนินรายการ รายการ "คุยกับหมอบ้าน" เล็งเห็นว่า บทความนี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือที่ต่ำ ที่ต้องประสบกับเหตุน้ำท่วม เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสียหายให้บรรเทาเบาบางลง โดยอาจารย์ยอดเยี่ยมเขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อเป็นวิทยาทานโดยไม่หวังผลตอบแทน ดังนั้น ไทยรัฐออนไลน์ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนในวงกว้างต่อไป 

บันทึก "บัญญัติ 20 ประการ เตรียมบ้านก่อนน้ำท่วม " แบบสั้นกระชับนี้ขึ้น ซึ่งหวังว่าคงจะพอมีประโยชน์ครับ ขอให้หลับตาแล้วนึกถึงภาพว่า เรากำลัง "เตรียมเมืองรับศึกสงคราม" นะครับ


Name:  393f005514f93cbf306fe4f8d92cb3b4.jpg
Views: 1
Size:  27.2 กิโลไบต์

1. ดูทางน้ำที่จะมาสู่บ้านเรา แล้วจะไปทางไหนได้บ้าง 

ขอให้คิดว่า เราเหมือนกำลังตั้งค่ายคูประตูหอรบอยู่ เราต้องรู้ว่าข้าศึกจะเข้ามาโจมตีเราทางทิศใดได้บ้าง และหากเกิดความพลาดพลั้งขึ้นมา เราจะหนีไปทางไหนได้บ้าง ซึ่งข้าศึกอาจจะเข้ามาตีเราหลายทางก็ได้ และเราก็อาจจะมีทางหนีไปหลายทางก็ได้ บางครั้งข้าศึกไม่ได้มาตีแค่ 2-3 ทาง แต่ทำการ "ล้อม" เราเอาไว้ทุกด้านก็ได้ ทำให้ทางหนีของเราถูกปิดกั้นไว้หมด 

หากเมื่อรู้แนวทางเหล่านั้นแล้ว ก็ขอให้เริ่มวางแผนที่จะ ?หยุดน้ำ หยุดข้าศึกที่จะเข้ามาโจมตีเรา? ซึ่งการหยุดยั้งน้ำหรือข้าศึกนั้น มีหลายวิธีที่ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการ ?สร้างเขื่อนชั่วคราว? ด้วยกระสอบทราย หรือเอาแผ่นวัสดุใดๆ มากั้นก็ได้ การปิดกั้นนั้นมีหลายวิธี ซึ่งใช้ความเข้าใจพื้นฐาน บวกกับสอบหาข้อมูล ก็จะพอทราบกันเองได้ครับ 

2. กำแพงบ้านไว้กันน้ำได้ แต่ต้องระวังรั้วพังนะครับ 

ตามปกติแล้ว รั้วบ้านที่เป็นคอนกรีตหรือก่ออิฐ จะเปรียบเสมือนกำแพงเมืองที่จะกันน้ำไม่ให้เข้ามาในบ้านของเรา แต่เราต้องไม่ลืมว่า น้ำหนักของน้ำที่ขังหรือถาโถมเข้ามากดที่ด้านข้างของกำแพงรั้วเรา จะทำให้รั้วบ้านของเราเกิดการเอียง แตกร้าว หรือพังลงมาได้ เพราะรั้วบ้านทั่วไป วิศวกรท่านจะไม่ได้ออกแบบไว้ให้รับแรงหรือน้ำหนักที่กระทำด้านข้างได้มากนัก

ทางป้องกันที่ง่ายที่สุดก็คือ เราหากระสอบทรายมาวางไว้อีกด้านหนึ่งของรั้วบ้านเรา (ในบ้านเรา) วางไว้ติดชิดกับรั้วไปเลย ยามเมื่อรั้วจะเอียงเพราะว่าน้ำที่ท่วมกดน้ำหนักมาอีกด้านหนึ่ง กระสอบทรายก็จะทำหน้าที่ช่วยรับน้ำหนักเอาไว้ ถ่ายแรงจากรั้วมา รั้วก็ยังตั้งตรงอยู่ได้ "กำแพงเมืองของเราก็ไม่แตก หรือล้มครืนลงมาครับผม"