pearleus

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

เมืองไทยสวรรค์อาชญากรข้ามชาติ

เมืองไทยสวรรค์อาชญากรข้ามชาติ นโยบายท่องเที่ยว "เปิดเสรี" ตั้งเป้าหมาย ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามามาก แต่พวกอาชญากรที่แฝงเข้ามา ในรูปของนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องกวาดล้าง กลุ่มอาชญากรข้ามชาติ อย่างจริงจังด้วย ใช้กฎหมายเข้มข้น
อาชญากรต่างชาติให้ข้อมูลว่า กล้าเข้ามาก่อเหตุในไทย เพราะกฎหมายไทย ไม่รุนแรง คนไทยใจดี นอกจากนี้ยังมีปัญหาว่า เมื่อพนักงานสอบสวน จะไม่ตั้งข้อหาความผิด อาชญากรรมข้ามชาติ แต่จะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวได้ง่าย ส่วนคดีเกี่ยวกับการสกิมมิงบัตรผู้เสียหาย อยู่ไม่อยู่ในประเทศไทย ทำให้คดีมีโทษต่ำ เมื่อได้รับการประกันตัว ในชั้นสอบสวน คนร้ายจะหลบหนี และกลับออกไป ล้างประวัติ เพื่อย้อนกลับเข้ามาก่อเหตุซ้ำ
แก๊งลูกหมู ...ลูกแพะ ... ลูกหมี อาละวาดหนัก ลักลอบนำเข้าแรงงาน ผิดกฎหมาย ปลอมหนังสือเดินทาง เชื่อมโยงการก่อการร้าย ประกอบด้วย 3 กลุ่มใหญ่ จะมีพื้นที่อิทธิพลแบ่งเฉลี่ยความรับผิดชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก โดยเฉพาะพัทยาและภูเก็ต
-แก๊งลูกหมี ประกอบด้วย รัสเซีย ยูเครน อุซเบกิสถาน .....ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต จะชอบขยายอิทธิพล ทางธุรกิจผิดกฎหมายข้ามชาติ แก๊งรัสเซีย จะมีความเชี่ยวชาญ และมีเทคโนโลยีทันสมัย ในการสกิมมิงข้อมูลภายในบัตรเครดิต ใช้เวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น จากนั้นก็จะนำบัตรปลอม ไปตระเวนกดเงิน
-แก๊งลูกแพะ ประกอบด้วย ปากีสถาน อินเดีย บังคลาเทศ ... ทั้งนี้ส่วนใหญ่ เป็นประเทศจากกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ฝีมือขั้นเทพ ในการปลอม "พาสปอร์ต” ทำได้แนบเนียนที่สุด โดยจะไม่ปลอมพาสปอร์ตยกเล่ม แต่จะจ้องขโมย จากนักท่องเที่ยว หรือรับซื้อพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยว ซึ่งบางคนมีเจตนาขาย เพื่อหาเงินนำมาท่องเที่ยว
*แก๊งลูกหมู ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ฮ่องกง จะมีความชำนาญในการปลอมแปลง “บัตรเครดิต” มากที่สุด โดยเฉพาะ “ฮ่องกง” และอาจจะร่วมถึง “มาเลเซีย” ที่มีความสามารถ ในการปลอม “บัตรเครดิต” ติดลำดับท็อปไฟว์ด้วย
ผลวิจัยอาชญากรรมข้ามชาติ สถาบันเพื่อการยุติธรรมฯ แฉ มีมากถึง 22 แก๊งเข้ามาก่ออาชญากรรม ในประเทศไทย พบตั้งแต่ปลอมบัตรเอทีเอ็ม ลักทรัพย์ หลอกลวงต้มตุ๋น โจรกรรม อึ้ง! แก๊งเวียดนามขโมยไอโฟนได้ตก 50 เครื่องต่อวัน สาเหตุที่อาชญากรกล้าเข้ามาก่อเหตุ! เพราะกฎหมายไม่รุนแรง และคนไทยใจดี
- แก๊งโรมาเนีย นำเครื่องปลอมแปลงบัตร จาก สเปนเข้ามาทาง ภาคใต้ของไทย โดยการจัดส่งทางพัสดุไปรษณีย์ จากนั้นนำเครื่องสกิมเมอร์ ไปติดตู้เอทีเอ็ม ในแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท และนำข้อมูลที่ได้ ไปทำบัตรปลอมรูดซื้อ ทองรูปพรรณหรือคอมพิวเตอร์ที่ห้างสรรพสินค้า ร้านอัญมณี พร้อมทั้งถอนเงินสด เพื่อนำกลับประเทศ
- แก๊งชาวเยอรมัน ออสเตรเลีย และสเปน จะโจรกรรมข้อมูลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยการใช้ไวรัสเข้าไปแฮ็กข้อมูล เจาะรหัสล็อกอิน และพาสเวิร์ดของเจ้าของบัญชี ขณะทำธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลก เมื่อได้เงินมาคนร้าย จะโอนเงินต่อไปยังบัญชีนอมินีในรัสเซีย
- แก๊งชาวฝรั่งเศสและชาวอังกฤษ จะนำบัตรเครดิต ที่จารกรรมข้อมูลลูกค้า ในฝรั่งเศส และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย มากดเงินสดในตู้เอทีเอ็ม ตามจังหวัดท่องเที่ยวของไทย แก๊งคนร้ายนำ กล้องขนาดจิ๋ว หรือเครื่องสกิมเมอร์มือถือ ขนาดเล็กเท่าไฟแช็กไป ดูดข้อมูลบัตรลูกค้า โดยวิธีการเข้าไปตีสนิท และขอดูบัตรเครดิตจากเหยื่อ แล้วแอบบันทึกข้อมูล นำไปทำบัตรปลอม เพื่อนำไปกดเงินในประเทศที่ 3
- แก๊งอาชญากรจาก กลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาใต้ และแก๊งแขกขาวจะเข้ามา ก่ออาชญากรรมพื้นฐานในรูปแบบ การโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านพัก เจาะตู้เชฟ และโจรกรรมเครื่องเพชร มีแก๊งใหญ่ 4 แก๊ง ได้แก่ 1.แก๊งโคลอมเบีย จะเข้ามาก่อเหตุโจรกรรม ตามบ้านจัดสรร ด้วยการตระเวนขับรถติดแผ่น ป้ายทะเบียนปลอม 2.แก๊งเม็กซิกัน กัวเตมาลา และเปรู จะเข้ามาโจรกรรมรถยนต์ ทรัพย์สินในบ้านพัก โรงแรม และโจรกรรมเพชร ตามงานแสดงอัญมณีต่างๆ 3.แก๊งแอฟริกา จะหลอกว่ามีน้ำยาล้างเงินดำ 4.แก๊งอิรัก-อิหร่าน มีความชำนาญในการขโมยทรัพย์สิน ลูกค้าในโรงแรม โดยปลอมหนังสือเดินทาง มาเช่าห้องพักแล้วก๊อบปี้กุญแจไว้ เพื่อเข้ามาลงมือขโมยทรัพย์สิน นักท่องเที่ยวที่เข้าพักโรงแรมในภายหลัง
- แก๊งจากในแถบประเทศ อาเซียนด้วยกัน มีแก๊งเวียดนาม กัมพูชา และลาว ซึ่งเวียดนามชำนาญมาก เพราะถึงขนาดมีโรงเรียน สอนกรีดกระเป๋า วิ่งราวทรัพย์ โดยจะหมายตาโทรศัพท์ ไอโฟน ซึ่งเลือกลงมือ ในห้างสรรพสินค้าหรูย่านสยาม และงานคอนเสิร์ต ของศิลปินระดับโลกที่เข้ามาจัดงานในไทย สามารถขโมยไอโฟนได้ถึง 50 เครื่องต่อวัน รวมทั้งก่อเหตุลักทรัพย์ ขโมยรถมอเตอร์ไซค์ ข้ามแดน แก๊งอินโดนีเซียจะมีความชำนาญ เรื่องทุบรถยนต์เพื่อโจรกรรม ของมีค่าในรถ


วารีนา ปุญญาวัณน์
กลับไปหน้าแรก

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

ยิวยึดประเทศไทยแน่ หลังบุกยึดแหล่งท่องเทียวหลัก


พระเจ้าช่วยกล้วยเน่า ....... ยิวยึดประเทศไทยแน่ หลังบุกยึดแหล่งท่องเทียวหลัก เฉพาะในพัทยา "ยิว "บุกยึดหนักสุด หลังจากสร้างปัญหา รุกพื้นที่ทะเลและ บังทิวทัศน์อ่าวพัทยา ทุนยิวกลุ่มใหม่ " Global Top Group Co.,Ltd " ประกาศแผน ทุ่มทุนก้อนใหม่อีก 3,300 ล้านบาท ต่อเนื่อง คุยดีมานด์ใหม่ เป็นลูกค้าจีนมาแรง

Global Top Group เป็นกลุ่มนักธุรกิจ จากอิสราเอล เริ่มธุรกิจที่ประเทศไทยเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ด้วยการ ซื้อขายที่ดินในพัทยา หลังปี 2547 ได้เริ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการแรกภายใต้แบรนด์ซิตี้ การ์เด้น พัทยา ที่ผ่านมาไปโรดโชว์ ที่เมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน และ ก.ย. นี้ จะไปโรดโชว์ ที่เมืองคุนหมิงและสิงคโปร์

ผู้ประกอบการจากอิสราเอล ในพัทยาขณะนี้มีอย่างน้อย 4 กลุ่มคือ Global Top Group Co.,Ltd , กลุ่ม Matrix กลุ่ม Tulip Group และกลุ่ม Heights Holding รองรับ การหลั่งไหลของ นักลงทุนชาวรัสเซีย ชาวออสเตรเลีย สิงคโปร์ จีนและแม้แต่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ที่ซื้อห้องชุดมากมาย

การลงทุนจาก ผู้ประกอบการ "ต่างชาติ" ซึ่งรุกเข้ามาร่วมทุน กับเจ้าของที่ดิน ในลักษณะ "ร่วมทุน" ตั้งบริษัทผู้ประกอบการ แยกเป็นรายแปลง แต่ละโครงการ โดยเจ้าของที่ดิน ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นฝ่ายคนไทย ตามกฎหมาย 51% ตีจากมูลค่าราคาที่ดิน เป็นสัดส่วนหุ้น ในขณะที่ทุนต่างชาติ จะรับหน้าที่เป็นผู้พัฒนาโครงการ บริหารการตลาด และงานก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นการพัฒนาและขาย โดยเน้นลูกค้าชาวต่างชาติ เป็นหลัก ซึ่งยึดกรอบกฎหมายพรบ.อาคารชุด ที่เปิดให้ต่างชาติ ถือครองกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 49% ที่เหลือ 51% ของพื้นที่ขาย ต้องถือโดยคนไทย หรือบริษัทนิติบุคคล ที่จดทะเบียนในประเทศไทย

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

อายัดทรัพย์เครือข่ายอาชญากรข้­ามชาติ ชาวเนเธอร์แลนด์

(BANGKOK 23/07/2557, http://news.thaipbs.or.th)
เจ้าหน้าที่อายัดทรัพย์เครือข่ายอาชญากรข้­ามชาติ ชาวเนเธอร์แลนด์พร้อมภรรยาชาวไทย ในจังหวัดชลบุรี หลังมีพฤติกรรม เปิดร้านกาแฟบังหน้าแต่ลักลอบค้ายาเสพติด และนำเงินมาลงทุนในไทย 


------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

สุขอยู่ที่ใจ


คุณยากจน แต่ยังมีคนติดตาม นี่คือความสุข
คุณป่วย แต่ยังมีคอยดูแล นี่คือความสุข
คุณหนาว แต่ยังมีคนคอยกอด นี่คือความสุข
คุณร้องไห้ แต่ยังมีคนคอยปลอบใจ นี่คือความสุข
คุณแก่ตัว แต่ยังมีใครอยู่เป็นเพื่อน นี่คือความสุข
คุณผิด แต่ยังมีคนให้อภัยคุณ นี่คือความสุข
คุณเหนื่อย แต่ยังมีคนคอยเอาใจ นี่คือความสุข
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่คุณสามารถดึงคนมารุมล้อมคุณได้กี่คน? แต่อยู่ที่ใครสักกี่คนยินดีเข้ามารุมล้อมคุณต่างหาก
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่คุณขับรถหรูหราเพียงใด แต่อยู่ที่ยามที่คุณขับขี่คุณขับกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย!
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่บัญชีเงินฝากของคุณมีเงินมากเท่าใด? แต่อยู่ที่คุณเป็นอิสระทั้งกายและใจได้ทุกวัน ทำในสิ่งที่คุณรักด้วยความเบิกบาน!
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่คู่ชีวิตของคุณสวยหล่อเพียงใด? แต่อยู่ที่ยามพบหน้าคู่ชีวิตต่างก็มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ!
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่คุณเป็นข้าราชการตำแหน่งใหญ่โตเพียงใด? แต่อยู่ที่ไม่ว่าคุณเดินย่างไปที่ใด ใครๆก็สรรเสริญว่าคุณเป็นคนดี!
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่อยู่ดีกินดีเพียงใด? แต่อยู่ที่ปราศจากทุกข์ปราศจากโรคภัย!
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่เสียงปรบมือยามคุณประสบความสำเร็จว่ากึกก้องเพียงใด? แต่อยู่ที่ยามคุณล้มแทบมลาย ยังมีคนข้างๆคอยห่วงใย “เพื่อนเอ๋ย สู้ๆ”แล้วยิ้มให้
ความสุข ไม่ได้อยู่ที่คุณเคยฟังคำหวานหูมามากมายเพียงใด? แต่อยู่ที่ยามคุณร้องไห้เสียใจ ยังมีคนข้างๆคอยปลอบใจ “ไม่ต้องคิดมาก ฉันยังอยู่เคียงข้างเธอ”
.........................
สักวันหนึ่งเราจะเข้าใจ ทรัพย์สินเงินทองไม่ใช่ที่สุดของความสุข!
เพื่อนเอ๋ย รู้พอใจได้ความสุข...

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 45

1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไปในสายวิชาที่ตนเลือก แต่ภาษาอังกฤษจำเป็นมากๆจงให้ใส่ใจส่วนวิชาอื่นๆ เอาแค่ดีพอหางานดีๆทำก็พอเพราะโลกแห่งความเป็นจริงวัดกันที่ผลงานไม่ใช่ที่เกรด
แต่ภาษาอังกฤษสร้างผลงานได้
2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมากพอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่แต่อย่าลืมด้วยว่าอาชีพนั้นสามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่าถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง
4. เมื่อถึงวัยทำงานใครเก็บเงินก่อนรวยเร็วกว่าและสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุดเพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณในชาตินี้ตลอดไป
6. ซื้อบ้านก่อนที่จะซื้อรถเพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นรถมีแต่มูลค่าลดลงชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด
7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมากรีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลันก่อนที่จะแก่แล้วผ่อนไม่ไหว
8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรกสู่ความร่ำรวยแต่ขั้นต่อมาคือต้องรู้จักลงทุน.อย่าลืมคบกับที่ปรึกษาการเงินไว้เป็นเพื่อน
9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้เพราะคุณจะไม่มีทางรู้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้
10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆต่อให้เก่งแค่ไหนก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้
11. ควรมีงานทำมากกว่า 1งานเพราะความมั่นคงไม่เคยมีบนโลกใบนี้
12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียวเพราะความสามารถของคนเรามีมากกว่า 1 เสมอ
13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามาจงอย่าปฏิเสธถึงจะล้มเหลวแต่มันก็คือประสบการณ์
14. สร้างเนื้อ สร้างตัวให้ได้เร็วที่สุดในขณะที่คุณยังมีกำลังยังเป็นหนุ่ม-สาวเพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมากไม่ใช่เรื่องสนุก
15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาวเพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
16. เลือกคู่ชีวิตจงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขาแต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
17. การมีแฟนหรือสามีภรรยายังเลิกกันได้แต่ความเป็นพ่อแม่ลูกนั้นเลิกกันไม่ได้เพราะฉะนั้นควรดูแลพวกเขาให้ดีๆ
18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้
19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้างอย่าแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียวและอีกอย่างงานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่งโปรดถนอมตัวเองให้มากเมื่อยังเป็นวัยรุ่นอย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป


นิทานเรื่องนี้ดีนะ...ขอมอบให้คนที่ยังติดยึด

กาลครั้งหนึ่ง มีขอทานคนหนึ่งออกขอทานทุกวัน เขาอยากจะมีชีวิตเหมือนคนปกติ เพราะฉะนั้น เขาจึงมักจะขอทานเสบียงกรังและตุนไว้ แต่ว่าเขากักตุนเสบียงมาหลายปี ยุ้งฉางของเขาก็มีเพียงข้าวสารนิดหน่อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นเช่นนั้น เขาจึงตัดสินใจค้นหาสาเหตุ
คืนวันหนึ่ง เขาแอบอยู่มุมหนึ่งของบ้านและจ้องไปที่เสบียง ในที่สุด เขาเห็นหนูตัวใหญ่มาขโมยกินเสบียงของเขา เขาโกรธมาก ตะโกนไปที่เจ้าหนูว่า"บ้านคนรวยมีอาหารเยอะแยะ แกทำไมไม่ไปกินทำไมเจาะจงมากินอาหารข้าที่กักตุนมาด้วยความลำบาก" เจ้าหนูพูดขึ้นว่า "ชะตาของเจ้ามีข้าวสารได้แค่8ส่วน เดินให้ทั่วหล้า ก็ไม่สามารถมีข้าวได้ครบถัง" ขอทานถามเจ้าหนู "ทำไมเป็นเช่นนั้น"เจ้าหนูตอบว่า "ข้าก็ไม่รู้ เจ้าไปถามพระพุทธองค์สิ
ขอทานจึงตัดสินใจ เดินทางไปทางทิศตะวันตกเพื่อถามพระพุทธองค์ ว่าเหตุผลอันใดถึงมีชะตาชีวิตเช่นนี้
เจ้าขอทานก็ออกเดินทาง เขาขอทานระหว่างทาง เดินทางไปไกลมาก วันหนึ่ง เขาเดินจนฟ้ามืดถึงจะพบบ้านคนหลังหนึ่ง รีบไปเคาะประตู มีพ่อบ้านเดินออกมาถามว่ามีเรื่องอะไร เขาบอกขอข้าวกินหน่อย พอดีเศรษฐีเจ้าของบ้านออกมาเห็นเข้า เลยถามขอทานว่า มืดอย่างนี้แล้วทำไมยังเดินทางอยู่อีก ขอทานจึงเล่าชะตาชีวิตให้เศรษฐีฟัง
บอกว่าจะไปถามเหตุผลกับพระพุทธองค์ เศรษฐีได้ยินดังนั้น รีบเชิญขอทานเข้าไปนั่งในบ้าน ให้เสบียงกรังและเงินกับเขาจำนวนหนึ่ง ขอทานถามว่าทำไมทำเช่นนั้น เศรษฐีจึงเล่าเหตุผลให้ฟังว่า ลูกสาวข้าอายุ16แล้ว ยังพูดไม่ได้ ขอร้องให้เจ้าช่วยถามเหตุผลกับพระพุทธองค์ด้วย
เศรษฐีเคยสาบานว่าใครก็ตามที่ทำให้ลูกสาวพูดได้ เขาก็จะให้ลูกสาวแต่งงานกับคนนั้น ขอทานได้ฟังเช่นนั้น คิดว่าไหนๆก็จะไปหาพระพุทธองค์อยู่แล้ว เราก็ถือโอกาสช่วยถามให้เขาก็ได้ ขอทานจึงรับปากจะถามให้
ขอทานเดินทางต่อไปผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า เดินถึงเขาลูกหนึ่ง เห็นวัดแหืงหนึ่งตั้งอยู่ ก็เลยเข้าไปขอน้ำดื่ม เห็นพระแก่รูปหนึ่งถือไม้เท้าดีบุก ท่าทางแก่มาก แต่ดูกระฉับกระเฉง พระชราให้น้ำเขาดื่มและบอกให้เขาพักผ่อนสักครู่ แล้วถามเขาว่าจะไปไหน ขอทานบอกจุดหมายที่จะไป พระชรารีบจับมือขอทานไว้และพูดว่า ขอร้องเจ้าต้องช่วยถามพระพุทธองค์ให้หน่อย ข้าเข้าฌานฝึกฝนมา 500 กว่าปีแล้ว ตามหลักควรจะขึ้นสวรรค์แล้ว ทำไมยังบินขึ้นไปไม่ได้ ขอทานก็เลยรับปากพระชรา
เดินไปข้างหน้า ผ่านหนทางทั้งห้วยหนองคลองบึง ขอทานมาถึงริมแม่น้ำสายหนึ่ง ในแม่น้ำไม่มีเรือสักลำ ขอทานร้อนรนใจ จะทำอย่างไรดี จะข้ามไปยังไง ขอทานร้องไห้และพูดว่า หรือว่าชีวิตข้าจะต้องลำบากเช่นนี้หรือ 

ทันใดนั้น เต่ายักษ์แก่ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เต่าแก่พูดภาษาคนได้ ถามขอทานว่ามาร้องไห้ที่นี่ทำไม ขอทานเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เต่าแก่พูดกับเขาว่า ข้าได้เข้าฌานปฏิบัติตนมา 1000 ปีแล้ว ตามหลักน่าจะกลายเป็นมังกรบินไปแล้ว ทำไมยังเป็นแค่เต่าแก่ๆตัวหนึ่ง ถ้าเจ้าไปพบพระพุทธองค์ช่วยถามให้ข้าด้วย ข้าจะให้เจ้าขี่ข้ามแม่น้ำไปฝั่งตรงข้าม ขอทานรับปากด้วยความดีใจ
ขอทานเดินไปจำไม่ได้ว่าอีกกี่วัน แต่ก็หาพระพุทธองค์ไม่เจอ คิดในใจว่าพระพุทธองค์อยู่ไหนนะ แดนสุขาวดีน่าจะถึงแล้ว ขอทานเสียใจมาก เลยผลอยหลับไปแบบงุนงง
ทันใดนั้นพระพุทธองค์ปรากฏองค์ขึ้น ขอทานดีใจมาก พระพุทธองค์ถามขอทานว่า เจ้ามาไกลขนาดนี้ น่าจะมีคำถามอะไรที่สำคัญมากใช่ไหม ใช่เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะถามคำถามหลายคำถาม หวังว่าท่านจะอธิบายให้ข้าน้อยเข้าใจได้ พระพุทธองค์ตอบว่า ได้สิ แต่มีเงื่อนไขหนึ่งนะเจ้าถามได้สูงสุดแค่ 3 คำถามเท่านั้น เพราะว่าไม่เคยมีใครถามเกิน 3 คำถามมาก่อน ขอทานตอบตกลง คิดในใจว่า ข้าจะถามคำถามไหนดีขอทานรู้สึกว่าคำถามของตนเองช่างไม่มีความสำคัญเลย
เต่าแก่เข้าฌานมา1000ปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย คำถามเขาน่าจะลองถามดู
พระชราปฏิบัติมา500ปี ก็ลำบากมาก คำถามเขาก็น่าจะถามดู
ลูกสาวเศรษฐีช่างน่าสงสารนัก พูดไม่ได้แล้วจะแต่งงานได้ยังไง
คำถามของเขาก็น่าจะถามดู และแล้วขอทานจึงไม่ลังเลที่จะถามคำถามที่1
พระพุทธองค์ตอบเขาว่า เต่าแก่ไม่ยอมสละกระดองของมัน ก็เลยไม่สามารถกลายเป็นมังกรได้ ในกระดองของเต่ามีไข่มุกราตรีอยู่24เม็ด ถ้ามันยอมสละกระดอง มันก็จะกลายเป็นมังกรได้
คำถามที่2 ท่านตอบว่า พระชราถือไม้เท้าวิเศษทั้งวัน ในใจพะวงแต่ไม้เท้าว่าเป็นของวิเศษ ใช้ไม้เท้าเคาะบนพื้น1ที บนพื้นก็จะกลายเป็นธารน้ำใส ถ้าหากพระชรายอมโยนไม้เท้าทิ้ง เขาก็จะขึ้นสวรรค์ได้แล้ว
ขอทานดีใจมาก จึงถามคำถามที่3 ท่านตอบว่า ถ้าเด็กสาวใด้พบคนที่เธอรัก เธอก็จะพูดได้เอง และทันใดนั้นพระพุทธองค์ก็หายไป。