pearleus

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

เมืองไทยสวรรค์อาชญากรข้ามชาติ

เมืองไทยสวรรค์อาชญากรข้ามชาติ นโยบายท่องเที่ยว "เปิดเสรี" ตั้งเป้าหมาย ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามามาก แต่พวกอาชญากรที่แฝงเข้ามา ในรูปของนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องกวาดล้าง กลุ่มอาชญากรข้ามชาติ อย่างจริงจังด้วย ใช้กฎหมายเข้มข้น
อาชญากรต่างชาติให้ข้อมูลว่า กล้าเข้ามาก่อเหตุในไทย เพราะกฎหมายไทย ไม่รุนแรง คนไทยใจดี นอกจากนี้ยังมีปัญหาว่า เมื่อพนักงานสอบสวน จะไม่ตั้งข้อหาความผิด อาชญากรรมข้ามชาติ แต่จะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวได้ง่าย ส่วนคดีเกี่ยวกับการสกิมมิงบัตรผู้เสียหาย อยู่ไม่อยู่ในประเทศไทย ทำให้คดีมีโทษต่ำ เมื่อได้รับการประกันตัว ในชั้นสอบสวน คนร้ายจะหลบหนี และกลับออกไป ล้างประวัติ เพื่อย้อนกลับเข้ามาก่อเหตุซ้ำ
แก๊งลูกหมู ...ลูกแพะ ... ลูกหมี อาละวาดหนัก ลักลอบนำเข้าแรงงาน ผิดกฎหมาย ปลอมหนังสือเดินทาง เชื่อมโยงการก่อการร้าย ประกอบด้วย 3 กลุ่มใหญ่ จะมีพื้นที่อิทธิพลแบ่งเฉลี่ยความรับผิดชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก โดยเฉพาะพัทยาและภูเก็ต
-แก๊งลูกหมี ประกอบด้วย รัสเซีย ยูเครน อุซเบกิสถาน .....ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต จะชอบขยายอิทธิพล ทางธุรกิจผิดกฎหมายข้ามชาติ แก๊งรัสเซีย จะมีความเชี่ยวชาญ และมีเทคโนโลยีทันสมัย ในการสกิมมิงข้อมูลภายในบัตรเครดิต ใช้เวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น จากนั้นก็จะนำบัตรปลอม ไปตระเวนกดเงิน
-แก๊งลูกแพะ ประกอบด้วย ปากีสถาน อินเดีย บังคลาเทศ ... ทั้งนี้ส่วนใหญ่ เป็นประเทศจากกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ฝีมือขั้นเทพ ในการปลอม "พาสปอร์ต” ทำได้แนบเนียนที่สุด โดยจะไม่ปลอมพาสปอร์ตยกเล่ม แต่จะจ้องขโมย จากนักท่องเที่ยว หรือรับซื้อพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยว ซึ่งบางคนมีเจตนาขาย เพื่อหาเงินนำมาท่องเที่ยว
*แก๊งลูกหมู ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ฮ่องกง จะมีความชำนาญในการปลอมแปลง “บัตรเครดิต” มากที่สุด โดยเฉพาะ “ฮ่องกง” และอาจจะร่วมถึง “มาเลเซีย” ที่มีความสามารถ ในการปลอม “บัตรเครดิต” ติดลำดับท็อปไฟว์ด้วย
ผลวิจัยอาชญากรรมข้ามชาติ สถาบันเพื่อการยุติธรรมฯ แฉ มีมากถึง 22 แก๊งเข้ามาก่ออาชญากรรม ในประเทศไทย พบตั้งแต่ปลอมบัตรเอทีเอ็ม ลักทรัพย์ หลอกลวงต้มตุ๋น โจรกรรม อึ้ง! แก๊งเวียดนามขโมยไอโฟนได้ตก 50 เครื่องต่อวัน สาเหตุที่อาชญากรกล้าเข้ามาก่อเหตุ! เพราะกฎหมายไม่รุนแรง และคนไทยใจดี
- แก๊งโรมาเนีย นำเครื่องปลอมแปลงบัตร จาก สเปนเข้ามาทาง ภาคใต้ของไทย โดยการจัดส่งทางพัสดุไปรษณีย์ จากนั้นนำเครื่องสกิมเมอร์ ไปติดตู้เอทีเอ็ม ในแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท และนำข้อมูลที่ได้ ไปทำบัตรปลอมรูดซื้อ ทองรูปพรรณหรือคอมพิวเตอร์ที่ห้างสรรพสินค้า ร้านอัญมณี พร้อมทั้งถอนเงินสด เพื่อนำกลับประเทศ
- แก๊งชาวเยอรมัน ออสเตรเลีย และสเปน จะโจรกรรมข้อมูลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยการใช้ไวรัสเข้าไปแฮ็กข้อมูล เจาะรหัสล็อกอิน และพาสเวิร์ดของเจ้าของบัญชี ขณะทำธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลก เมื่อได้เงินมาคนร้าย จะโอนเงินต่อไปยังบัญชีนอมินีในรัสเซีย
- แก๊งชาวฝรั่งเศสและชาวอังกฤษ จะนำบัตรเครดิต ที่จารกรรมข้อมูลลูกค้า ในฝรั่งเศส และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย มากดเงินสดในตู้เอทีเอ็ม ตามจังหวัดท่องเที่ยวของไทย แก๊งคนร้ายนำ กล้องขนาดจิ๋ว หรือเครื่องสกิมเมอร์มือถือ ขนาดเล็กเท่าไฟแช็กไป ดูดข้อมูลบัตรลูกค้า โดยวิธีการเข้าไปตีสนิท และขอดูบัตรเครดิตจากเหยื่อ แล้วแอบบันทึกข้อมูล นำไปทำบัตรปลอม เพื่อนำไปกดเงินในประเทศที่ 3
- แก๊งอาชญากรจาก กลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาใต้ และแก๊งแขกขาวจะเข้ามา ก่ออาชญากรรมพื้นฐานในรูปแบบ การโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านพัก เจาะตู้เชฟ และโจรกรรมเครื่องเพชร มีแก๊งใหญ่ 4 แก๊ง ได้แก่ 1.แก๊งโคลอมเบีย จะเข้ามาก่อเหตุโจรกรรม ตามบ้านจัดสรร ด้วยการตระเวนขับรถติดแผ่น ป้ายทะเบียนปลอม 2.แก๊งเม็กซิกัน กัวเตมาลา และเปรู จะเข้ามาโจรกรรมรถยนต์ ทรัพย์สินในบ้านพัก โรงแรม และโจรกรรมเพชร ตามงานแสดงอัญมณีต่างๆ 3.แก๊งแอฟริกา จะหลอกว่ามีน้ำยาล้างเงินดำ 4.แก๊งอิรัก-อิหร่าน มีความชำนาญในการขโมยทรัพย์สิน ลูกค้าในโรงแรม โดยปลอมหนังสือเดินทาง มาเช่าห้องพักแล้วก๊อบปี้กุญแจไว้ เพื่อเข้ามาลงมือขโมยทรัพย์สิน นักท่องเที่ยวที่เข้าพักโรงแรมในภายหลัง
- แก๊งจากในแถบประเทศ อาเซียนด้วยกัน มีแก๊งเวียดนาม กัมพูชา และลาว ซึ่งเวียดนามชำนาญมาก เพราะถึงขนาดมีโรงเรียน สอนกรีดกระเป๋า วิ่งราวทรัพย์ โดยจะหมายตาโทรศัพท์ ไอโฟน ซึ่งเลือกลงมือ ในห้างสรรพสินค้าหรูย่านสยาม และงานคอนเสิร์ต ของศิลปินระดับโลกที่เข้ามาจัดงานในไทย สามารถขโมยไอโฟนได้ถึง 50 เครื่องต่อวัน รวมทั้งก่อเหตุลักทรัพย์ ขโมยรถมอเตอร์ไซค์ ข้ามแดน แก๊งอินโดนีเซียจะมีความชำนาญ เรื่องทุบรถยนต์เพื่อโจรกรรม ของมีค่าในรถ


วารีนา ปุญญาวัณน์
กลับไปหน้าแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น