pearleus

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วิกฤติพัทยา ในสายตาฝรั่ง


ในสองสามปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ ในเมืองพัทยาต่างหวานอมขมกลืนกับสถานการณ์ ที่ได้รับผลกระทบในทางการเมือง เนื่องจากมีการยกเลิกการเดินทางมายังพัทยาอย่างต่อเนื่อง หลายฝ่ายอ้างว่าเพราะแพ็คเกตท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ต่างรวมเอาการท่องเที่ยวจากกรุงเทพและพัทยาเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นเมื่อในพื้นที่ กรุงเทพมีปัญหาเรื่องการประท้วงต่าง ๆ ก็ส่งผลมาถึงพัทยาคือการยกเลิกทัวร์ทั้งหมด และยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่หายไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน

หลายฝ่ายได้หาแนวทางแก้ไข โดยใช้นโยบายการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และแก้วิกฤติให้เป็นโอกาส โดยทำการสร้างอิมเมจหรือภาพลักษณ์ใหม่ เน้นแผนการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในส่วนของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เพราะเมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ไม่มีปัญหาเรื่องของความวุ่นวายจากสถานการณ์ทางการเมือง
ทุกครั้งที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ก็มักจะส่งผลกระทบมาสู่เมืองพัทยาเสมอ ในที่ประชุม ตัวแทนภาครัฐ เอกชน กลุ่มผู้ประกอบการ ตัวแทนชมรม สมาคมด้านการท่องเที่ยวในเขตเมืองพัทยา และคณะที่ปรึกษา เพื่อร่วมหารือปัญหาด้านการท่องเที่ยว ต่างมีผลสรุปร่วมกันในการที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยมีการจัดทำหนังสือเพื่อส่งเรื่องชี้แจงถึงสถานภาพความมั่นคง และความปลอดภัยของเมืองพัทยา ไปยังหน่วยงานภาคธุรกิจท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงบริษัทนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
ในส่วนของ สำนักงานการท่องเที่ยวอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น พร้อมจะได้จัดประชุมเร่งด่วนในการวางแผนมาตรการในการจัดทำการโฆษณาและประชา สัมพันธ์เชิงรุก เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งคาดว่าคงจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นภายในเร็ววันนี้
ผู้อ่านพัทยาเดลินิวส์ที่เป็นชาวต่างชาติทั้งนักท่องเที่ยว อีกทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองพัทยาและใกล้เคียง ต่างก็ได้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย เกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนของเมืองพัทยาขณะนี้ ซึ่งบางประเด็นเป็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่บางข้อก็ไม่เหมาะสมในทางปฏิบัติ คำแนะนำดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิด และวิสัยทัศน์ของชาวต่างชาติ ที่อาจจะไม่เข้าใจถึงปัญหาที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนของสังคมไทย
ต่อไปนี้คือความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่อยากเห็นเมืองพัทยาเปลี่ยนแปลงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่านทุกท่านคงพิจารณนาความคิดเห็นเหล่านี้อย่างใช้วิจารณญาน


ความเห็นที่ 1 เมืองพัทยากำลังวิ่งลงเขาอย่างช้า ๆ
ปัญหา ของเมืองพัทยาในตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาทางด้านการเมือง แต่เป็นปํญหาที่สะสมมานานด้วยตัวของพัทยาเอง อย่างเช่น นักท่องเที่ยวถูกโกง ถูกเอาเปรียบ เพราะว่าโลกใบนี้ได้เล็กลงมาก ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็วทางอินเทอร์เนต เมื่อนักท่องเที่ยวทราบข้อนี้ก็จะเริ่มไม่มาเมืองพัทยา อย่างเช่น ตัวอย่าง ผมมีเพื่อนถูกจี้เมื่อ2วันก่อน กระชากเอาสร้อยคอทองคำไปจากคอของเธอ เมืองพัทยาจึงเหมือนกับกำลังวิ่งลงเขาอย่างช้า ๆ
อย่าสร้างภาพ เพราะโลกใบนี้เล็กลงมาก
มัน ก็เหมือนกันทุกครั้ง ก็คือ ปัญหาที่พัทยาชอบมองว่า เนื่องจากประเทศไทยหรือเมืองพัทยาเสนอข่าวไม่ดี ผู้บริหารในเมืองจึงมุ่งมั่นแต่จะสร้างภาพพจน์ โดยไม่พยายามแก้ปัญหา ผมขอบอกได้เลยว่า คุณสามารถจะสร้างภาพยังไงก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปัญหาได้เลยไม่สามารถแก้ปํญหาได้เลย ปัญหาก็ยังตกค้างที่เมืองพัทยาเหมือนเดิม ภาพพจน์ที่ว่าเมืองพัทยาเป็นเมืองเซ็กส์ เป็นเมืองหลวงของเซ็กส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรื่องนี้ก็ไม่สามารถปฎิเสธได้
สถิติของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทุกวันก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ มีการยิงกันทั้งๆ ที่เป็นเวลากลางวันและอยู่ในบริเวณที่มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งตำรวจส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถจับตัวผู้ร้ายได้ กลายเป็นว่าทั้งนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยในเมืองพัทยา ต้องเรียนรู้ที่จะจับกุมผู้ร้ายด้วยตัวเอง
พัทยากลาย เป็นเมืองที่ไม่มีความปลอดภัย เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถฝากความไว้วางใจไว้กับตำรวจ ส่วนนักธุรกิจบางประเภทก็ตั้งหน้าตั้งตาคดโกงลูกค้า พอมีปัญหากับลูกค้า เรื่องถึงตำรวจเจ้าของธุรกิจก็มีเส้นกับตำรวจ หรือบางทีเจ้าของธุรกิจก็เป็นตำรวจซะเอง นั่นก็ยิ่งหมายถึงลูกค้าไม่สามารถเอาเรื่องไปถึงศาลได้ พูดง่าย ๆ ก็คือไม่มีทางชนะคดี
เรื่องจริงที่ว่าทุก ๆ เมืองท่องเที่ยว ย่อมจะมีผู้คนที่จ้องเอารัดเอาเปรียบกันหรือเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามในเมืองไทย นักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบมากไปกว่านั้น เพราะว่านักท่องเที่ยวจะถูกมองเหมือนตู้เอทีเอ็ม เคลื่อนที่

อยาก จะแจ้งให้ทราบว่า นักท่องเที่ยวเกลียดการถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมากเลย แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ คุณไปเที่ยวต่างประเทศและคุณถูกเอาเปรียบ คิดราคาแพง ไม่ใช่แปลว่าคุณจะไม่มีเงินจ่าย แต่ว่าเรากำลังพูดถึงความถูกต้อง ที่ทุกคนควรจะจ่ายในราคาเดียวกัน
ความเห็นที่ 2 คนไทยต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ
ผม คิดว่าคนไทยต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ ต้องเรียนรู้เสียใหม่ที่จะต้องดูแลและเอาใจใส่นักท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ ต้องให้เกียรติ และให้ความจริงใจ ซึ่งการที่จะได้รับความนับถือและจริงใจ ส่วนใหญ่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงิน คนไทยจะคิดถึงเรื่องเงินมาเป็นอันดับแรก ผมไม่ได้คาดหวังว่า ผมเขียนอย่างนี้หรือพูดอย่างนี้และจะทำให้คน ไทยเปลี่ยนแปลงทันที มันเหลือเชื่อมากเลยวิธีคิดของคนไทย เวลามีปัญหาคนไทยชอบตำหนิคนอื่นและก็สิ่งอื่นๆ แทนที่จะตำหนิตนเอง
ถึง ยังไงก็ตามพัทยาก็ยังคงเป็นสถานที่ที่ผู้คนชอบมาเพื่อหาความสนุกสนานและ ปาร์ตี้ ซึ่งก็จะไม่ค่อยเหมือนที่อื่น ๆ ในโลก ผมไป ๆ มา ๆ ในเมืองไทยตลอดเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา จนกระทั่งผมคิดว่าพัทยาคือบ้านที่สอง ของผม ยังไงก็ตามผมก็มองว่าเมืองใหญ่ ๆ แบบนี้ทั่วโลกก็มีปัญหาเหมือนกัน คือปัญหาอาชญากรรม ถ้าคุณไปเมืองท่องเที่ยวที่ไหน คุณมักจะเจอกับปัญหาแบบนี้ คุณต้องเข้าใจว่าคนเดือดร้อนต้องการทำเงิน เพื่อชีวิตอยู่รอด เพื่อซื้ออาหาร ผมอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์คและผมทำงานอยู่ในแถบตะวันออกกลางในทะเล ตลอดเวลา 4 ปี ผมไปเมืองพัทยา ผมก็จะไปพักในคอนโดที่ผมซื้อไว้
จริงอยู่ครับ พัทยาจำเป็นต้องทำความสะอาดตัวเองอย่างเร่งด่วน ในความเห็นของผม ผมคิดว่าพัทยาควรจะมีสวนสาธารณะ มีพื้นที่สีเขียว ปรับ ปรุงแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนกลางวัน ไม่ใช่ไปแต่บาร์ตลอด24ชั่วโมง ผมไม่เถียงว่าบาร์ทำให้คนมีเงินและก็ได้ธุรกิจแน่นอน แต่คนพื้นที่ควรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่จะทำงานเป็นแต่ในบาร์ ในดีสโก้ แล้วก็เป็นแค่แม่ค้าที่ขายของตามชายหาด จริง ๆ แล้วประเทศไทยเป็นเมืองที่สวยงามมาก ผมเดินทางไปทั่วเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศไทย คนแต่ละจังหวัดก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็เหมือนทั่วโลกคนเราต่างกันมีทั้งคนดีและไม่ดี


พัทยาจะไม่สามารถมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นภายในเร็ว ๆ นี้ มันก็เหมือนทุกอย่างในชีวิตคนเรา ต้องใช้เวลา แต่อย่าท้อแท้ นายกเมืองพัทยา ตลอดจนคณะกรรมการ หรือผู้บริหารต่าง ๆ ของเมือง ควรจะให้ความสนใจ กับบทความและความคิดเห็นเหล่านี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วผม ก็ไม่แน่ใจว่าผมจะเห็นด้วยกับทุกความคิด ที่เสนอมานี้
และ ในขณะเดียวกันผมก็เชื่อว่า หลายคนก็อาจจะไม่ได้มีความเห็นตรงกับผม แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นที่ลงไว้ในนี้ มีความคิดเห็นที่ดีมาก ๆ และมีค่ามาก ๆ เลย ได้แต่สงสัยว่าผู้บริหารของเมืองจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะ หลังจากผมอ่านเนื้อข่าวข้างบนแล้ว ผมมีความรู้สึกว่า บทสรุป 5 ข้อ ที่ทางคณะผู้บริหาร เสนอเพื่อแก้ปัญหานั้น ไม่น่าจะช่วยให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเมืองพัทยาดีขึ้น


ความเห็นที่ 3 คณะผู้บริการมีความคิดเห็นดังนี้ การแก้ปัญหาเพื่อให้ภาพพจพ์พัทยาดีขึ้น ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวดีขึ้นจะทำได้โดย
ข้อ 1 แนะนำและขอร้องสื่อ ให้เสนอแต่ข่าวที่เป็นด้านบวก หลีกเลี่ยงข่าวที่ไม่ดีทั้งหมด
ข้อ 2 ให้สื่อพยายามรายงานผู้อ่านของตนเองว่า พัทยาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่วุ่นวายใน เมืองหลวงคือกรุงเทพฯ
ข้อ 3 ให้สื่ออธิบายว่าไม่มีปัญญาในการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมาพัทยา
ข้อ4 ทางฝ่ายบริหารจะดำเนินการส่งจดหมายไปยัง เอเจนซีทัวต่าง ๆ เพื่อยืนยันว่าพัทยาไม่มีปัญหา และยังคงสามารถมาเที่ยวได้อยากปลอดภัย
ข้อ 5 พยายาม ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่น คือคนไทย มาเที่ยวในพัทยามากขึ้น
ข้อ 6 จัดเตรียมงบประมาณ ประมาณ 5 ล้านบาทเพื่อที่จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่าง ๆ เช่นงานลอยกระทง งานคริตมาส หรือ งานปีใหม่ที่จะถึงนี้
จะเห็นได้ว่าคำแนะนำต่าง ๆ หรือวิธีการแก้ปัญหา ที่ทางเมืองจัดเตรียมนั้น ไม่สามารถจะแก้ปัญหาที่แท้จริงได้เลย ทางเมืองหรือผู้บริหาร สมควรอย่างยิ่งที่จะให้ ความสำคัญกับเจ้าของธุรกิจ ซึ่งเจ้าของธุรกิจเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ ธุรกิจเล็ก ต่างก็ถือว่า เป็นเส้นเลือด ที่หล่อเลี้ยงหาเงินเข้าเมืองพัทยา
ผม มีความรู้สึกลึกๆ ว่าผู้บริหารบางท่านไม่ต้องการที่จะให้มีการเสนอ เรื่องที่เป็นความจริง ต้องการปิดบังอะไรบางอย่างไว้ เพราะถ้าหากมีการปล่อยให้ออกความเห็น เป็นตู้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระก็จะยิ่งแสดงให้รู้ปัญหาที่ใหญ่มากยิ่ง ขึ้น
ปัญหาอีกข้อหนึ่งที่ผมนึกขึ้นได้ตอนนี้ ก็คือ ถ้าหากลูกค้ามีปัญหาในบาร์ เช่นปัญหาเรื่องค่าดื่มที่ไม่ถูกต้อง ก็จะมีพวกคนคุมบาร์ลุกขึ้นมาชกต่อย พวกนักเลงคุมบาร์เหล่านั้นน่ะ มีอิทธิพลมากเลย สามารถทั้งกดดันข่มขู่ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว กว่าตำรวจจะมาถึง เขาก็ไปหมดแล้ว
บุคคลเหล่านี้ น่าจะถูกฝึกอบรมให้มีมารยาท เพราะจริง ๆ แล้ว เมื่อมีปัญหาในบาร์ ผู้คุมบาร์เหล่านี้ต้องเป็นผู้แก้ปัญหา ต้องอธิบายลูกค้าอย่างสุภาพ ไม่ใช่เป็นผู้ที่สร้างปัญหาเสียเองและสร้างภาพพจน์ที่ไม่ดีเลยในสายตาของนัก ท่องเที่ยว ผมอยากขอเสนอว่าบาร์ไหนที่มีเรื่องชกต่อยบ่อย ๆหรือมีเรื่องกัน ควรจะปิดบาร์นั้นไปเลย แล้วก็ปรับลงโทษเจ้าของบาร์และผู้คุม ให้รับผิดชอบกับความเสียหายต่าง ๆ
คำแนะนำที่มีราคาแค่ 5 เซ็นต์
ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่มีราคาแค่ 5 เซ็นครับ ที่ผมจะสามารถแนะนำคุณได้ไม่จำเป็นต้องใช้ 5 ล้านให้การปรับปรุงเมือง
ข้อ 1 คดีอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยา ตอนนี้มันเหลือเชื่อมาก มีมากเยอะแยะและทุกวัน ข้อแนะนำให้หยุดพวกแก้งค์ ต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน ข้อแรกที่ต้องทำคือหยุดการยิงและฆ่ากัน
ข้อ 2 หยุดการคิดเงินที่แพงกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวตามที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หรือดิสโกเทค หรือร้านค้า หรือแม้แต่แท็กซี่ ถ้าเป็นคนต่างชาติใช้บริการมักจะ เสียเงินมากกว่าคนไทยเป็น 2 เท่า
ข้อ 3 กวาดล้างพวกรัสเซีย พวกยูเครน เพราะคนเหล่านี้จริง ๆ แล้วก็คือเป็นโสเภณี หรือไม่ ก็เป็นมาเฟียเท่านั้น

ข้อ 4 อย่าเข้มงวดกับชั่วโมงในการเปิดบาร์ ดิสโกเทค หรือร้านค้าเลย หากคนมีระบบจัดการดี ๆ จะเปิดนานแค่ไหนก็ได้
ข้อ 5 อย่าไปกวาดล้างผู้หญิงหรือแม่ค้า ที่ยืนอยู่ตามชายหาด ที่เป็นพวก สมัครเล่นเลย เพราะนักนักท่องเที่ยวชอบคนเหล่านี้มาก ฝรั่งที่บอกว่าไม่ชอบ ๆ น่ะ คือเจ้าของบาร์ครับ เพราะแย่งลูกค้าเขา
ข้อ 6 ปิด ว๊อกกิ้งค์สตรีตไปเลย เพราะบาร์เหล่านั้น รวมทั้งดีสโก ร้านอาหาร เป็นที่สำหรับคดโกงนักท่องเที่ยวโดยแท้
ข้อ 7. กวาดล้างและจับกุมผู้หญิงหาเงิน ชาวรัสเซีย ชาวยูเครน ชาวโปร์แลนด์ กลับส่งคืนประเทศไปให้หมด
ข้อ 8. ตั้งกฎอย่าให้มีมอเตอร์ไซต์ ที่มีความแรงเกินกว่า 150 ซีซี เพราะมันทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ข้อ 9. พวกเรือหรืออุปกรณ์ในการเล่นน้ำต่าง ๆ เช่น สกู๊ตเตอร์ หรือเรือเร็วต่าง ๆ ควรจะหยุดให้หมดเพราะว่ามีคนเสียชีวิตเยอะมาก
ข้อ 10. กวาดขันเข้มงวดกับพวกอาชญากรต่างชาติ ถ้าจับได้อย่างน้อยต้องติดคุก 5 ปี แม้กระทั่งพวกที่ชอบชกต่อยต่าง ๆ ที่เป็นคนชาวต่างชาติ
ข้อ 11. ไม่ควรให้นักท่องเที่ยวเช่ามอเตอร์ไซต์ เขาเป็นนักท่องเที่ยวควรจะใช้แท็กซี่ หรือรถบัสเท่านั้น
ข้อ 12. ควรจะเข้มงวดในเรื่องของศาสนา พวกมุสลิมดื่มแอลกอฮอล์และก็หิ้วผู้หญิงหาเงิน พวกนี้ควรจะถูกจับติดคุกให้หมด เพราะว่าผิดกฎหมาย
ข้อ 13. ผู้หญิงที่มาทำงานบาร์ไม่ควรจะมีอายุเกิน 30 ปี

ความเห็นที่ 4 คนไทยยังหลอกตัวเอง ยังอยู่ในโลกของความฝัน

เจ้า หน้าที่ชอบให้จัดการประชุมแต่รู้สึกว่าไม่ได้ให้ความสำคัญจริงจังในเนื้อหา ของที่ประชุม เพื่อนของผมตอนนี้อยู่ในเมืองพัทยาและเขาเพิ่งถูกจี้ สูญเงินไป 20,000 บาท ฉะนั้นข้อที่จะเเก้ปัญหาอันดับแรกต้องแก้ปัญหาเรื่องอาชญากรรมก่อนเลยครับ
คน เมืองพัทยาที่ผมคุยด้วยเค้าไม่สนใจเรื่องของการเมืองเลย ไม่สนใจเรื่องของเศรษฐกิจหรือสังคม แล้วคนไทยส่วนใหญ่ก็คิดว่ามันไม่มีผลอะไรกับประเทศไทยหรอก เค้าก็ยังหลอกตัวเองอยู่ในโลกของความฝันซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่
สำหรับความเห็นของผมว่าสาเหตุทำไมนักท่องเที่ยวน้อยลง ผมคิดว่าสาเหตุแรกเลยคือเรื่องของอาชญากรรมสถานการณ์ ทางบ้านเมืองเรื่องเกี่ยวกับการจี้ปล้น ตัวผมเองประสบมาด้วยตัวเองเลย ผมถูกจี้ที่บาร์ในซอย 6 พอผมเล่าให้เจ้าของร้านฟังเค้าก็หัวเราะ และเค้าก็บอกว่าเค้ามีเพื่อนเป็นตำรวจอยู่ เค้าบอกให้ผมรอเดี๋ยวเค้าจะจัดการให้ ผมรออยู่ 1 ชั่วโมงเต็ม ๆ ก็ไม่เห็นจะมีตำรวจมาเลยจริง ๆ จากซอย 6 ไปถึงซอย 9 ซึ่งก็คือซอยที่ตำรวจอยู่ก็ไม่ได้จะไกลจากกันเลย ฉะนั้นผมก็เลยคิดว่าเจ้าของบาร์คงไม่อยากให้มีเรื่องว่าถูกจี้ในบาร์ตัวเอง ก็อาจไม่ได้โทรหาตำรวจหรือไม่งั้นก็จ่ายเงินให้กับตำรวจ
ผมเชื่อว่าคุณก็คงจะเห็นว่านักท่องเที่ยวถูกเอาเปรียบตลอดเวลาทำไมเค้าไม่คิด ว่านักท่องเที่ยวถูกจี้ เจ้าของบาร์ก็พายายามโกงลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นราคาหรือเครื่องดื่มหรืออะไรต่าง ๆ เหตุการณ์เหล่านี้แน่นอนนักท่องเที่ยวก็ต้องเบื่อหน่ายและไม่อยากมา ผมเคยเห็นกับตาเลยว่ามีการขี่มอเตอร์ไซต์ แล้ววิ่งราวเอาสร้อยของผู้เคราะห์ร้ายในซอยบัวขาว เพราะว่าผู้ที่ถูกจี้ใส่สร้อยทองและก็มีจี้ด้วย ราคาตกประมาณแสนห้า ผมยืนดูเหตุการณ์ ตลอดเวลาไม่มีตำรวจมาเลย คือว่าไม่ได้ให้ความสำคัญเลย
ข่าวในเมืองพัทยาก็คือข่าวที่ถูกสกรีนหรือกลั่นกรองแล้ว ถูกแจกมาโดยตำรวจ
เพราะ ฉะนั้นข่าวที่เราอ่านกันก็คือ เฉพาะเป็นรายที่ตำรวจสนใจ เพราะข่าวทั่วไปก็จะเป็นข่าวที่ออกมาจากตำรวจ ไม่เคยมีสักครั้งนึงที่นักข่าวเขียนข่าวแล้วบอกว่าตัวเองเจอเหตุการณ์เอง เพราะฉะนั้นข่าวในเมืองพัทยาก็คือข่าวที่ถูกสกรีนหรือกลั่นกรองแล้ว ถูกแจกมาโดยตำรวจ เราจึงไม่เคยทราบปัญหาที่แท้จริงของเมืองพัทยาเลย
ผมไปพักอยู่เมืองพัทยา 3 วัน ผมได้ยินเรื่องข่าวของการจี้ปล้นแทบจะทุกวัน ผมอยู่นั่นแค่ 3 วันผมยังได้ยินข่าวทุกวัน ทำไมเจ้าหน้าที่จะไม่ได้ยิน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ในเมือง ผู้บริหารของเมืองซึ่งไม่ใช่เป็นตำรวจก็เป็นประชาชนที่อยู่ในเมืองพัทยา เหมือนกัน ทำไมถึงให้เสนอข่าวแต่ในด้านดี ทำไมไม่พยายามทำงานของตัวเองให้ดียอมรับความจริง
ความ คาดหวังของนักท่องเที่ยวหรือผู้อาศัยอยู่ในเมืองพัทยาเขาขอกันมากไปหรือครับ เขาขอกันตรงๆ เรื่องของความปลอดภัย ผมในฐานะเป็นเพียงแค่นักท่องเที่ยวผมจะไม่กลับไปเมืองพัทยาอีกเลย และผมก็จะเตือนเรื่องอันตรายเหล่านี้ให้กับเพื่อน ๆ ของผมด้วย
ใน การประชุมนักธุรกิจ บรรยากาศในการประชุมเป็นไปในลักษณะของ เจ้าหน้าที่ของเมืองเป็นผู้รายงานการประชุมและสรุปผลการประชุมด้วย สรุปเฉพราะความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เท่านั้น เจ้าของธุรกิจจริง ๆ มักจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกความคิดเห็น หรือถ้าหากออกความคิดเห็นก็จะถูกสรุปว่าต้องนำเข้าที่ประชุมอีกทีหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ผมอ่านแล้ว ผมมีความคิดเห็นว่า มันไม่น่าจะเรียกว่าเป็นการประชุม เพราะการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งสองฝ่ายต้องมีสิทธ์ออกความคิดเห็นเท่ากัน ทั้งผู้ดำเนินการประชุมและผู้เข้าร่วมประชุม
ผมติดตามข่าวมาตลอดจะ เห็นว่ามีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาเมืองพัทยาอยู่บ่อย ๆ แต่ผมไม่เคยเห็นว่ามีการแก้ไขอะไรเลย สำหรับผมข้อแรกเลย ปัญหาใหญ่ที่เมืองไทยควรจะต้องแก้เพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ ค่าของเงินบาทต้อง ลดค่าเงินบาทลง ตอนผมมาพัทยาครั้งแรก ผมแลกเงินเหรียญออสเตรเลียได้ 1 เหรียญเท่ากับ 32 บาท ปัจจุบันผมแลกได้เพียง 22 บาท ซึ่งผมก็คิดว่าฝรั่งทุกชาติ ก็คงจะอยากจะให้ลดค่าเงินบาท
ผม คิดว่าเจ้าหน้าที่ผู้บริหารเมืองพัทยาหากฉลาดแล้วสิ่งที่ยังต้องทำอันดับแรก ก็คือควรจะเริ่มอ่านความเห็นพวกเราในหนังสือพิมพ์พัทยาเดลินิวส์ (ถ้าเค้าสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้นะครับ )เพราะว่าข้อมูลที่อยู่ในนี้เป็นประโยชน์อย่างมากแทบจะไม่ต้องคิดหาวิธีแก้ ปัญหาอื่นเลย เพราะเป็นข้อเรียกร้องของลูกค้า คือนักท่องเที่ยว ผู้ซึ่งเป็นนำเงินมาให้คุณใช่ไหมครับ
ถ้าหากเค้ายังคงดื้อดึงบริหารบ้านเมืองแก้ไขปัญหาตาม 5 ข้อที่เสนอมา นั้นผมคิดว่าไม่เกิน 3 เดือน ประชาชนที่อยู่ในเมืองพัทยาจะต้องหิวโหย ธุรกิจจะย่ำแย่และอาชญากรจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไม่มีเงินหมุนเวียนในเมืองนี้เลย แต่มันน่าเสียใจ ผมมีลางสังหรณ์ลึก ๆ ว่า ผู้บริหารเมืองพัทยาคงจะไม่เห็นข้อความนี้หรอกครับ

สำหรับ ผมแล้ว ผมอยากจะขอร้องให้พัทยาเดลินิวส์แปลความเห็นของบทความนี้ แล้วส่งไปให้กับนายกเมืองพัทยา ให้ผู้อ่านตัดสินใจและแนะนำ ชี้แจงได้ครับ ความเห็นเหล่านี้เป็นประโยชน์ทั้งสิ้นครับ ถ้าจะพูดอย่างภาษาชาวบ้านก็คือจะมีประชุมไปทำไมล่ะครับ ประชุม ประชุม ประชุม ครั้งนี้สรุปไม่ได้เลื่อนไปประชุมครั้งหน้า ประชุมครั้งหน้าสรุปไม่ได้ก็เลื่อนเป็นประชุมครั้งต่อไป
ผมสงสัยมากครับว่าคุณ ไม่เคยรู้เลยหรือว่าเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาสามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้แต่ไม่แก้ปัญหาเพียงเท่านั้น
ไม่ เชื่อหรอกครับว่าคุณจะไม่รู้เรื่องว่าอะไรเกิดขึ้นในเมืองพัทยาผมขอยืนยัน เลยเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาและตำรวจรู้ทุกอย่าง รู้ทุกอย่างแต่ไม่อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่น อยากจะฟังแต่ความคิดเห็นที่ดี ๆ
ผมเชื่อว่ามีคนไทยที่เสนอความคิด เห็นดี ๆ คำแนะนำดี ๆ ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยเห็นถูกนำมาใช้ ผมจะไม่สงสัยเลยหลังจากบทความนี้ถูกตีพิมพ์หรือถูกแปลเป็นภาษาไทย ผมจะไม่สงสัยเลยว่าเจ้าของหนังสือพิมพ์พัทยาเดลินิวส์คงจะไม่ถูกเชิญไปเข้า ร่วมประชุมอีกแน่นอน
ความเห็นที่ 5 ความคิดเห็น จำนวน 26  ข้อ ของฝรั่งที่รักเมืองพัทยา
สำหรับผม ผมขอเสนอความคิดเห็นทั้งหมด รวมเป็นข้อ ๆ นะครับจำนวน 26 ข้อนะครับ
ข้อ1. ซ่อมทางเดินที่อยู่ข้างถนนเรียบชายหาด ให้เรียบร้อยหน่อยเถอะ มีทั้งรูโบ๋มีทั้งรอยแตกและอีกเยอะแยะมากเลยเดินไม่สะดวก นักท่องเที่ยวผู้หญิง แก่ ๆ หน่อย เดินน่าสงสารมาก
ข้อ2. รื้อทางเดินบนถนนเรียบชายหาดที่ผุพัง เพราะผมเห็นเลยว่ามีแหล่งน้ำ แหล่งน้ำนี่เป็นที่เพาะพันธ์ของยุงนะครับ
ข้อ3. โปรเจค 5 ปีที่บอกว่าจะเอาสายเคเบิลของไฟฟ้า และทุกอย่างลงใต้ดินนะครับมันน่าอายมากผ่านไป 5 ปีแล้วยังไม่เสร็จ
ข้อ4. รื้อพวกที่ติดตั้งตามทางเดินของถนนออกให้หมดเลยอย่างเช่นตู้โทรศัพท์ แม่ค้านั่งเต็มไปหมดไม่มีทางเดินเลย ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นทางเท้าเพราะว่าเดินไม่ได้เลย
ข้อ5. เลิกเถอะครับทั้งประชาชนและตำรวจด้วยชอบขับรถมอเตอร์ไซต์บนทางเท้านะครับ
ข้อ 6 ทำทางเดินให้คนได้เดินข้ามถนนอย่างปลอดภัยได้ไหมครับ ซึ่งสามารถทำได้อาจจะเป็นใส่สัญญาณไฟ สัญญาณจราจรให้คนเดินข้ามถนนได้ ตรงใกล้ ๆ รอยัลการ์เด้น หรือตรงไมค์ ช้อปปิ้งมอลล์ หรือไม่ก็ทำเป็นสะพานลอยคนข้ามก็ได้ ข้ามไปอีกฝั่ง ตั้งแต่ชั้นสองของรอยัลการ์เด้น ที่ช๊อปปิ้ง แล้วก็ใกล้ ๆ สเวนเซน ข้ามไปยังถนนด้านถนนชายหาดของพัทยานะครับ เพราะว่ามันเสี่ยงชีวิตมากเลยกับการพยายามที่จะข้ามถนน ในขณะที่มีผู้ขับบ้าเลือดขับรถโดยไม่ได้เห็นใจผู้เดินข้ามถนนเลย ตรงนี้ก็สามารถทำได้ ตรงถนนสาย 2 ด้วยครับ คือควรจะมีถนนข้าม สะพานลอยคนข้ามถนนครับ
ข้อ 7 เนื่องจากทางเมืองได้ทำการตัดต้นไม้ออกตามทางเลียบชายหาดและหลายแห่ง เพราะบอกว่ามันจะบังกล้อง CCTV ของเมือง เมื่อได้ตัดออกไปแล้วทำไมไม่ปลูกใหม่ละครับ ปลูกใหม่แต่ให้มันเตี้ย เตี้ยกว่ากล้องก็ได้ หรือไม่ก็เอากล้อง ติดไว้อีกฝั่งหนึ่งของถนนก็ได้ เพราะสามารถติดได้ และก็ยังสามารถจับภาพคนที่เดินผ่านอยู่ตรงกล้องได้ด้วย
ข้อ 8 รูปปั้นเด็กต่างๆ ที่ตามทางเดินนะ ผมว่าลรื้อออกไปเลย รูปปั้นเด็ก ดูมันตลก ๆ ชอบกล รื้อมันออกไปจะได้จะมีพื้นที่ ถ้ายังรักรูปปั้นเด็กซึ่งไม่รู้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอะไร ก็เอาไปไว้ติดตั้งบริเวณที่มันไม่ใช่ทางเดินนะครับ
ข้อ 9 ที่นั่งตามถนนเลียบชายหาดจะเป็นที่นั่ง กลม ๆ แต่ตรงพื้นข้างล้างของที่นั่ง จะเป็นขอบยกสูงขึ้นมา น่าจะเปลี่ยนแปลงที่นั่งแบบใหม่ได้แล้ว ขอบยกสูงขึ้นมาเวลาเดินไปจะสะดุดทุกครั้งเลย (ลองสังเกตว่ามีคนเดินผ่าน แล้วสะดุดกี่คน เกือบ 50% ครับ)
ข้อ 10 ควรจะสร้างที่นั่งที่เป็นซีเม็นต์ ยาวมากกว่านี้ ตามถนนเลียบชายหาดพัทยา อย่าสร้างบนทางเดิน ให้สร้างใกล้ ๆ กับหาดเลย ถ้าสร้างบนทางเดินก็จะมาเบียดบังบนทางเดิน
ข้อ 11 ควรจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลากลางวัน บริเวณถนนเลียบชายหาด
ข้อ 12 ทะเลของพัทยาสกปรกเต็มไปด้วยขยะ ควรจะทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจะได้ว่ายน้ำได้ โดยไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
ข้อ 13 รถขนขยะของเมืองพัทยา ควรจะมาขนขยะเวลาที่ไม่ค่อยมีรถ ไม่อย่างงั้นจะทำให้รถติดเต็มไปหมด แล้วก็ไม่ควรจะขนขยะจัดขึ้นมาแยกแยะต่อหน้าต่อตาคนที่กำลังขับรถอยู่บนถนน ควรจะรีบยกใส่รถไป แล้วเอาไปจัดแยกขยะในที่ที่เตรียมไว้จะดีกว่า อย่าใช้เวลานานอยู่บนถนนนาน เพราะเป็นภาพที่ไม่สวยงามเลย
ข้อ 14 กฏหมายที่บอกไว้ว่าห้ามเอารถมอร์เตอร์ไซต์จอดไว้ข้างทาง รถมอร์เตอร์ไซต์เช่าที่จอดติดป้ายไว้ข้างทางน่ะ ทำไมไม่นำออกมาใช้จริงจัง ไม่มีการจับปรับอย่างจริงจังเพราะผมก็ยังเห็นมันจอดกินพื้นที่ของคนเดินอยู่ เหมือนเดิม แล้วก็กินพื้นที่ของรถคนอื่นด้วย รถที่จะมาติดต่อธุรกิจหรือ อะไรก็ตามที่บริเวณข้างถนน ไม่มีสิทธ์จอดรถเลย ถูกยึดโดยเจ้าของธุรกิจรถเช่าไปหมดเลย
ข้อ 15 ถ้าเห็นกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มวัยโจ๋มีพฤติกรรมที่ดูแล้ว เสี่ยงต่อการสร้างอันตราย เช่นชกต่อยหรือเมาเกะกะระราน รวมไปถึง คนต่างชาติด้วย ควรเชิญตัวออกไปจากบริเวณนั้นเลย เพราะมันจะสร้างภาพที่ดูไม่ดีกับถนนเลียบชายหาดเลย
ข้อ 16 อย่าพยายามไล่จับแม่ค้าบนถนนเลียบชายหาด น่าจะอนุญาตให้ขายของได้ แต่เก็บลิขสิทธิ์ในการขายของจำนวนถูก ๆ และก็เลิกวิ่งไล่จับ เพราะว่ามันเสียเวลาและก็เสียพลังงานมากกว่า จับแล้วก็ปรับปล่อย ซึ่งเงินที่ปรับก็ไม่รู้ว่าปรับแล้วเอาไปเข้ารัฐจริงหรือไม่ เขาก็เอามาขายอีกและก็มาไล่จับกันอยู่อย่างงี้เรื่อยไป ข้อ 18 ควรจะมีน้ำให้ใช้เพียงพอ ครั้งต่อไปถ้าน้ำในอ่างเก็บน้ำ แห้งหมดแล้ว ควรจะขยาย แก้ไขขยายอ่างน้ำให้มันใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะเก็บน้ำได้เพียงพอเพราะพัทยามีน้ำ ใช้ไม่เพียงพอ
ข้อ 17 ควรจะแก้ปัญหาเรื่องไฟฟ้า ด่วนมากทุกครั้งที่มีฝนตกหรืออากาศไม่ดี หรือแม้กระทั่งไม่มีเหตุผลอะไรเลยบางทีไฟฟ้าก็ดับ ไฟฟ้าดับเป็นประจำวันแทบจะทุกวัน
ข้อ 18 ร้านคาราโอเกะทั้งหลายควรจะกำหมดให้ปิด ในเวลาเดียวกับบาร์ก็คือตี 2 แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะใช้ เครื่องตรวจจับความดังเป็นเดสิเบลล์ ถ้าหากเสียงดังเกินหรือเปิดเกินกำหนดเวลาควรจะปรับอย่างน้อย 500 ถึง 1,000 บาท
ข้อ  19 ควรจะกวดขันไม่อนุญาตให้มีรถสองแถวหรือรถบรรทุกเล็กขายของเร่และก็ติด เครื่องกระจายเสียงเปิดเพลงดังมาก โฆษณาขายของไปตามท้องถนนต่าง ๆ ควรจะจับปรับ 500 บาท
ข้อ 20 กวดขันรถสองแถวที่ชอบถือโอกาสคิดเกินราคา เท่ากับเป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ควรจะประกาศติดราคาค้าโดยสารไว้ในที่ที่เปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งรวมทั้งติด เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย เบอร์โทรศัพท์ว่าหากมีปัญหาให้โทรไปที่หมายเลขนี้ อาจจะเป็นเบอร์ของตำรวจหรือเบอร์ของนักข่าวก็ได้ (ผมไม่เชื่อว่าหากโทรไปหาผู้รับผิดชอบ คือเจ้าของคิว แล้วจะได้เรื่อง)
ข้อ 21  สองแถวควรจะจอดชิดกับขอบถนนประมาณ 18 นิ้ว ไม่ใช่จอดอยู่กลางเลน สำหรับรถวิ่งทำให้รถติดกันเป็นแถว ใครทำแบบนี้ต้องถูกปรับ 500 บาท
ข้อ 22  สองแถวควรจะจอดรับผู้โดยสารได้ตามที่ที่กำหนดให้ อาจจะเช่นอยู่ใกล้ ๆ กับปากซอยหรือสี่แยก แล้วก็น่าจะมีป้ายบอกให้แน่นอนว่าอีกกี่เมตร ถึงที่จอดรถสองแถว อาจจะมีสัญลักษณ์ที่ทาสีแดง ตามป้ายเป็นสัญลักษณ์ที่จอดรถสองแถวไม่ใช่ ขับเร่ร่อนหาลูกค้าไปทั่ว
ข้อ 23  รถบัสใหญ่ ๆ ก็ควรจะมีที่จอดรถให้แน่นอน เวลาจอดรับส่งผู้โดยสารก็ควรจะจอดจากขอบถนนประมาณอย่าให้เกิน18 นิ้ว เท่ากับ 1 ฟุตครึ่ง ถ้าใครไม่ทำตามนี้ อย่างรถบัสอย่างน้อยก็ต้องถูกปรับ 1,000 บาท
ข้อ 24 ซอยบัวขาวพื้นของถนนซอยบัวขาวซึ่งเป็นตลาดควรจะปูซีเม็นให้เรียบร้อยเหมือนที่ตลาดนาเกลือ
ข้อ 25 ควรจะตรวจสอบการช่วงวัดตวง การชั่งวัดขายสินค้าเช่นตามปั้มน้ำมันก็ควรจะตรวจสอบว่าวัดน้ำมันถูกต้อง หรือไม่ ในตลาดสดก็ควรจะตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม
ข้อ 26 ควรจะสร้างสวนสาธารณะหรือนั่งเล่นไว้ในใจกลางเมือง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยเห็นพื้นที่ ที่เป็นสีเขียวบ้าง
http://www.pattayadailynews.com/images_feature/010_th/0000000946/p16.jpg
http://www.pattayadailynews.com/images_feature/010_th/0000000946/p17.jpg
ความเห็นที่ 6 พัทยาไม่เคยให้โอกาส ชาวต่างชาติได้ออกความคิดเห็นเลย หรือเพราะว่ากลัวจะเสียหน้า
พัทยา เป็นสถานที่ที่เหลือเชื่อมากวิธีการแก้ปัญหา ควรจะถามลูกค้า ว่าลูกค้าต้องการอะไร พัทยาก็เหมือนแม่ค้าคือขายสินค้า ต้องการนักท่องเที่ยวมาเที่ยวก็ต้องถามนักท่องเที่ยวว่า นักท่องเที่ยวต้องการอะไร น่าประหลาดใจมากที่เมืองพัทยาไม่เคยให้โอกาส ชาวต่างชาติได้ออกความคิดเห็นเลย ว่าเขาต้องการอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะว่ากลัวจะเสียหน้า
มีเหตุผลเยอะเยะมากเลยว่าทำไม นักท่องเที่ยวถึงเลือกที่จะไม่มาพัทยา ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆที่เราพูดถึงอยู่ใน คอลัมน์นี้ยังถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ปัญหาใหญ่กว่านี้ ก็ยังมีอีกผมรับรู้ได้แต่เพียงว่าพัทยาเปลี่ยนแปลงไปมาก การเปลี่ยนแปลงของพัทยาเกิดจากผู้นำ
ขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารระดับสูงของเมืองพัทยา ผมไม่เชื่อหรอกว่าพวกคุณจะสามารถปฏิบัติไม่ดีต่อนักท่องเที่ยวได้ คุณไม่สามารถที่จะปล่อยปละละเลยให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวอยู่ในความไม่ ปลอดภัย ผมไม่เชื่อหรอกว่า คุณจะทำให้พวกเราถูกเอารัดเอาเปรียบพูดง่าย ๆ คือถูกโกงเงินโดยที่พวกคุณก็ยังยิ้มอยู่
การขึ้นราคาสินค้าโดยที่คุณภาพของสินค้าไม่ได้พัฒนาให้ดีขึ้น ผมไม่แปลกใจเลยครับที่เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเมืองพัทยา เพราะคนเราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ผลตอบแทนที่พัทยาได้รับทุกวันนี้เกิดจากการหว่านเมล็ดพืชของผู้นำนั่นเอง
พัทยา กำลังล้มเหลว พัทยากำลังเลือนหายไปจากชีวิตของเรา พัทยามุ่งเน้นที่จะทำให้เมืองของตนเองทันสมัยให้เร็วที่สุดให้มากที่สุด จำไว้นะครับผู้คนที่เคยหลั่งไหลกันมาเมืองพัทยาใช้จ่ายเงินมากมาย เป็นเพราะว่าเขามีเพื่อนมีคนรัก มีคนที่เขาติดต่อด้วย อยู่ในประเทศนี้เมืองนี้เขาจึงกลับมา เขาไม่ได้มาเพราะตัวเมือง หรือการบริการของเมืองเลย เขามาเพราะมาหาผู้คนที่เขารู้จัก
ผมเดิน ทางมาพัทยากว่า 10 ครั้ง รวมครั้งสุดท้ายผมมากับเรือทหารสหรัฐ และทุกครั้งที่มาพวกเราในฐานะนักท่องเที่ยว เรารู้สึกสลดใจมาก สลดใจว่าทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของสิ่งที่น่ารำคาญ เช่นการก่อความรำคาญโดยการถูกแม่ค้าเร่ขายสินค้าตามท้องถนน และรบเร้ายืนกรานให้พวกเราซื้อของผิดกฏหมาย และพอเรานำมันไปที่สนามบินเพื่อจะเอากลับบ้าน เราก็ต้องถูกยึดไว้ที่สนามบิน ซึ่งของเหล่านั้นแม่ค้าย่อมรู้ดีว่าไม่สามารถเอาข้ามไปต่างประเทศได้ เช่นพระพุทธรูป หรือมีดเล็ก ๆ เค้าก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเราไม่สามารถเอากลับบ้าน ทำไมเขาต้องพยายามขายให้ เรา และที่น่าเศร้าที่สุด ก็คือเด็กเล็ก ๆ เวลาสามทุ่ม บางทีถึงตี สาม ตีสี่ เด็กเหล่านี้ในวัยขนาดนี้ควรจะเข้านอนพักผ่อนไปโรงเรียนแต่เด็กเหล่านี้ยัง คงมาเร่ขายดอกไม้ ขายหมากฝรั่ง พยายามขายแม้กระทั่งรูปภาพรูปทะเล หรือรูปอะไรก็ตาม ซึ่งมันไม่จำเป็น เรามีกล้องเราสามารถถ่ายของเราเอง
ผม เคยนั่งมองดู และรู้สึกเศร้าใจมาก ผมเห็นเพื่อนผู้ใหญ่ชาวต่างชาติสามีภรรยา ที่นั่งอยู่ตามชายหาดเห็นเด็กพวกนี้เดินขายของ พวกเราต้องกล้ำกลืนช่วยซื้อเพราะว่าสงสารเด็ก แต่ขอร้องเถอะครับอย่าให้เด็กเหล่านี้ต้องมาเป็นฝ่ายที่เร่ร่อน หาเงินเลี้ยงผู้ใหญ่เลย
เมืองพัทยาต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้ออกไปให้เร็วที่สุด คนที่สร้างความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น ที่มีรอยสักเต็มตัว กินเหล้าเสียงดัง หัวเราะลั่น เอะอะโวยวาย เดินชนนักท่องเที่ยว มันไม่ใช่เป็นภาพที่น่าดูเลย
จงเชื่อฝรั่งที่เป็นนักท่องเที่ยวประจำ เพราะเราคือลูกค้าถาวรของคุณ
เมือง พัทยาควรจะมามุ่งเน้นเรื่องสร้างสวนสาธารณะสวย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ พัฒนาสนามกอล์ฟ สร้างพิพิธภัณฑ์ แม้กระทั่งโรงละครโชว์ ต่าง ๆ สามารถทำได้อย่างมืออาชีพเน้นให้เป็นจุดขายที่แตกต่างออกไปจากที่มี แต่เรื่องบาร์ หรือความสนุกสนาน เรื่องเซ็กส์
พัทยาก็มีประวัติ ศาสตร์ สามารถทำทัวร์ประวัติศาสตร์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าพัฒนาการทัวร์ การท่องเที่ยวออกไปไปในลักษณะเหล่านี้จะเป็นการสร้างงานให้กับคนในเมือง พัทยาอีกมาก ไม่ใช่ว่าคนในเมืองพัทยาต้องตกงาน คนในเมืองพัทยาจะทำงานได้อย่างเดียวถ้าไม่ทำงานบาร์ ก็ทำงานร้านอาหารหรือไม่ก็ทำงานแต่พวกการให้บริการ เรื่องสนุกเรื่องชีวิตกลางคืน ทำไมไม่สร้างงานให้คนพัทยา ได้ภูมิใจให้รักตัวเองว่ามีความสามารถหางานที่ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนกลางคืน เท่านั้น
ความเห็นที่ 7 เชื่อผมเถอะครับเชื่อฝรั่งที่มาอาศัยในเมืองพัทยา เชื่อฝรั่งที่เป็นนักท่องเที่ยวประจำเพราะเราคือลูกค้าถาวรของคุณ
จะ เห็นได้ว่าปัญหาอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นเป็นรายวัน บวกกับปัญหาอื่นๆ ทำให้คนพัทยารู้สึกสิ้นหวัง ความจริงที่หลีบหนีไม่พ้นตรงนี้ เหมือนภูเขาอันมหึมา ตั้งอยู่ตรงหน้าของคนพัทยา พวกเพื่อน ๆ ผมและผม กำลังเพ่งมองสถานการณ์ในเมืองไทย โดยเฉพราะอย่างยิ่งในเมืองพัทยา วันต่อวันทั้งทางหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ เพื่อที่จะตัดสินใจว่า ฮอลิเดย์คราวหน้าเรายังจะกลับมาพัทยาอีกหรือไม่
สำหรับความเห็นของผมแล้วผมเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงในเมืองพัทยา เมืองพัทยามีข่าวอาชญากรรมและเรื่องเสียหายเกิดขึ้นมาก ความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การบริการที่ย่ำแย่ลงเมืองที่สกปรกขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการรายงานข่าวอย่างสม่ำเสมอ ผมเห็นด้วยกับการรายงานข่าวความจริงดีกว่าการพยายามสร้างภาพ การรายงานข่าวความจริงทำให้ผู้ที่มาเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวระมัดระวังตัว จะได้เลือกว่าตนเองจะไปในสถานที่ไหนได้บ้าง เวลาไหนที่ปลอดภัย แต่มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก ยิ่งมีการรายงานข่าวน่ากลัวเท่าไหร่เจ้าหน้าที่ของรัฐ กลับมองไปอีกทางหนึ่งไม่ได้นำมันมาแก้ไข
สัญญาณเตือนภัย เรื่องของความไม่ปลอดภัยในเมืองหลวงอันที่จริงแล้ว ข่าวอาชญากรรมเกิดขึ้นทุกๆ ที่ในโลกใบนี้ รวมถึงในที่เมืองนิวยอร์คที่ผมอาศัยอยู่แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่านิวยอร์ค ปลอดภัยกว่าเมืองพัทยาเยอะเลยครับ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงาม ผมมาเที่ยวเมืองไทยเที่ยวทั้งในเมืองและตามเกาะต่างๆ อย่างเช่นเกาะสมุย แต่ในที่สุดไม่ว่าผมจะไปเที่ยวที่ไหน จุดหมายปลายทางแห่งสุดท้ายก่อนจะกลับบ้านคือผมต้องมาเที่ยวเมืองพัทยาอย่าง น้อย 2 อาทิตย์ ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าเมืองพัทยาเป็นเมืองแห่งความสนุกสนานและปาร์ตี้ เมืองแห่งการปลดปล่อยก่อนที่เราจะกลับบ้าน
ผมคิดถึงเมืองไทยโดยเฉพาะเมืองพัทยา แต่ผมขอบอกได้เลยถึงผมจะรักพัทยาและคิดถึงพัทยาขนาดไหน ผมก็ตัดสินใจว่าผมจะยังไม่กลับไปเมืองพัทยาจนกว่าว่าพัทยาจะทำความสะอาดตัวเองให้ดีขึ้นทั้งผมและเพื่อน ๆ ได้สัญญากันแล้วว่าจะคอยเฝ้าดูให้พัทยาดีกว่านี้เราถึงจะกลับไปเที่ยว
เพื่อน ผมหลาย ๆ คนและคนที่ผมรู้จัก และได้คุยกับพวกเค้าหลังจากเค้ากลับมาจากเที่ยวพัทยา ทุกคนจะพูดอย่างเดียวกันว่าพัทยาเปลี่ยนแปลงไปมากเลยไม่ปลอดภัยและไม่น่า เที่ยวอีก งานที่ผมทำเป็นงานที่ทำให้ต้องพบปะผู้คนไปทั่วโลกไม่ได้อยู่กับที่ ฉะนั้นผมจึงพบปะผู้คนหลายชาติมาจากหลายที่ ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันไปในทิศทางเดียวกันว่าเค้าเลิกที่จะวางแผนมา พัทยาแล้วหรือไม่ก็ไม่มาเที่ยวซะเลย
ความเห็นที่ 8 อยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้โอกาส ให้เวลาฟังเสียงพวกเราบ้าง
ผม ไม่คิดว่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในปัจจุบันคือสาเหตุที่ทำให้ไม่ มีนักท่องเที่ยวมาเมืองพัทยา ผมคิดว่าปัญหาสองสามอย่างที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวใน แหล่งนี้ก็คือการเพิ่มขึ้นสูงของข่าวอาชญากรรมเหตุการณ์ทำร้ายร่าง กาย จี้ปล้น เอาชีวิตแก้แค้นแก๊งยิงกันกลางวันแสก ๆ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ผู้คนไม่อยากมาเมืองพัทยา
ผู้บริหารเมืองพัทยา ถ้าท่านใส่ใจและอยากจะช่วยพวกเราจริงๆ กรุณา เริ่มข้อแรกเลยจัดการกำจัดต่าง ๆ ให้ออกไปให้หมด หยุดยิงกันได้แล้วครับ หยุดขโมย หยุดจี้ปล้น ทำให้ข่าวอาชญากรรมต่าง ๆ ลดลง การที่บอกว่าทำให้ข่าวลดลงไม่ได้แปลว่าปิดบังข่าวนะครับ แต่ต้องทำให้เกิดอาชญากรรมน้อยลง เมื่อไม่นานนี้เอง ผมจำได้ว่าไม่นานนี้เอง ผมมาพัทยาผมสามารถเดินได้ตีหนึ่งตีสองตามชายหาดตามว๊อกกลิ้งสตรีตเคยรู้สึก ปลอดภัย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว

ธรรมชาติของคนไทยที่เป็นคน มีมนุษย์สัมพันธ์ และมีทัศนคติที่ดี ๆ คือความสวยงามของประเทศนี้ ผมกล้ายืนยันได้เลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมมาเยี่ยมที่พัทยาบ่อย ๆ สาเหตุแรกก็คือคนไทยคนไทยมีมนุษย์สัมพันธ์ดี ผู้คนคือสิ่งที่ทำให้ผมต้องกลับมา แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปอีกแล้วครับ แม้แต่ผู้คนก็เปลี่ยนไปกับสถานที่ ทุกอย่างแย่ลงไปหมดเลย จนผมไม่กล้าที่จะเชื่อถือคนไทยอีกต่อไป
อยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยว ข้อง ให้โอกาส ให้เวลาฟังเสียงพวกเราบ้าง อยากขอถามว่าในเมืองนี้เมืองพัทยามีที่ไหนที่เป็นที่สำหรับนักท่องเที่ยว อย่างปลอดภัยจริง ๆ บ้าง ผมเชื่อว่ายังมีอยู่ ถ้าไม่มีก็ต้องพยายามทำให้มี ถ้ามีอยู่จงทำความสะอาดมันครับ เพราะนั่นคือที่ที่พวกเราต้องการ
เรา มาพัทยาเพื่อมาพักผ่อน มาเพื่อความสนุกสนาน มาเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน นั่นหมายถึงต้องมีความสะดวกสบายปลอดภัยและมีความสุข พูดถึงตรงจุดนี้ผมก็อยากจะเน้นว่าขอให้ลดความเข้มงวดในเรื่องของกฎกติกา ต่างๆ เช่น การปิดบาร์แต่หัวค่ำ การปิดทุกวันหยุดซึ่งวันหยุดเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวเลย บางคนมีโอกาสมีวันหยุดเพียงแค่สามวันหรือห้าวัน พอมาถึงเมืองพัทยา บาร์ก็ไม่เปิดขายเครื่องดื่มไม่สามารถทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างแล้วเราจะมาเที่ยวไปทำไมล่ะครับ
ผมคิดว่าหัวใจสำคัญของเมือง พัทยา ก็คือพัทยาย่อมรู้ดีว่าตัวเมืองหรือผู้บริหารจะต้องวซับพอร์ตหรือช่วยเหลือ นักธุรกิจ เมื่อนักธุรกิจเค้าประสบผลสำเร็จ ภาษีที่เค้าจ่ายมันก็เท่ากับไปช่วยเมือง ฉะนั้นธุรกิจเค้าก็ต้องเป็นธุรกิจที่สามารถเปิดทำการได้ ไม่มีการรีดไถ ไม่มีแก๊งมายิงกันในร้านของเค้า ไม่มีอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นทุกเมื่อ เมื่อทุกอย่างปลอดภัย อยู่อย่างสนุกสนาน ทุกคนแฮปปี้ ธุรกิจเค้าดำเนินไปได้ด้วยดี เค้ามีรายได้ดีเค้าก็เสียภาษีได้เต็ม ๆ เมืองก็แฮ็ปปี้
คุณอิทธิพล ต้องทำความเข้าใจอย่างหนักว่าการพยายามที่จะสร้างภาพนี่ เหมือนกับการที่จะพยายามให้คนกินของเสีย แล้วไปหลอกว่านี่คือไอศครีม มันเป็นไปไม่ได้ครับ
ความเห็นที่ 9 หวังว่าทุกท่าน คงรักพัทยาเหมือนกับพวกเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ใช่คนไทย
ถ้า จะให้ผมเปรียบเปรย ผมก็ว่าพัทยานี่เป็นอ่างหรือเป็นบ่อใหญ่ ๆ ที่เก็บของเสียของเน่า อันนี้ผมพยายามเลือกหาคำพูดที่ดีที่สุดแล้วนะครับ เมื่อมันเป็นอย่างนี้คนก็มา เพราะคนที่ชอบมาที่ ก็หลากหลาย บางคนมามีความสุข มาเที่ยวแล้วก็กลับบ้าน ลืมมันไปไม่เคยคิดหวังดีอะไร อยากจะทิ้งอะไรไม่ดีก็มาทิ้งใส่ที่นี่ เพราะนี่คือเมืองขยะ ส่วนคนรัสเซียที่มาเที่ยวส่วนใหญ่ ก็คือเป็นพวกที่ไม่มีเงิน คนจีนที่มาก็ไม่ใช่เป็นนักใช้จ่ายเค้าเที่ยวอย่างประหยัด ฉะนั้นผมบอกได้เลยว่าคุณต้องการคนตะวันตกชาวต่างชาติจริง ๆ ที่เป็นนักท่องเที่ยว นักช็อปผู้ที่มีเงิน สามารถมาใช้จ่ายที่เมืองนี้ได้
ส่วนพวกเราที่ต้องอยู่ที่นี่ เหมือนประชาชน (ชั้นสอง) ทั้ง ๆ ที่เราก็ทำตามกติกาทุกอย่าง ผมหวังว่าความฝันที่พวกคุณจะทำให้เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวของครอบครัวจงบรรลุจุดมุ่งหมาย ซึ่งผมดูแล้วมันริบหรี่มากครับ
เมืองพัทยาเปลี่ยนแปลงไปมาก หลายปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ตั้งแต่คนรัสเซียเริ่มตบเท้าเข้ามา ผมพูดอย่างไม่กลัวหรอกครับ นี่คือความจริงเราต้องยอมรับความจริง คนรัสเซียส่วนใหญ่ที่เข้ามา ถ้าไม่เป็นมาเฟียก็เป็นโสเภณี เขาจะไม่สนใจหรอก เขาไม่สนใจนักท่องเที่ยว คนเหล่านี้จะเสียงดัง ชอบชกต่อย ชอบเสพยาเสพติด ขอโทษนะครับ แล้วก็ไม่มีการศึกษา ถ้าพูดกันตรง ๆ เลยสำหรับคนชาติตะวันตกด้วยกัน เขาก็จะมองว่าเป็นชนชั้นอีกระดับหนึ่ง ทำไมทุกคนชอบคิดว่าฝรั่งชาวตะวันตกรังเกียจชาวรัสเซีย ผมจะไม่ขออธิบายครับแต่ผมสรุปได้คำเดียวเลยว่า ยิ่งรัสเซียเข้ามาเมืองพัทยามากเท่าไหร่ คุณก็จะไม่มีฝรั่งชาติอื่นเข้ามาเลย ผมขอสรุปความเห็นของผมเป็นข้อ ๆ ว่า
ข้อ1 รีบจัดการปัญหาเกี่ยวกับการเมืองให้ได้อย่างเร่งด่วน ถึงจะไม่มีสิทธิไปแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ก็ต้องสนับสนุกกิจกรรมที่จะทำให้ ปัญหาที่ปั่นป่วนของการเมืองในขณะนี้ จบลงให้ได้เร็วที่สุด
ข้อ2 ยกเลิกกฏกติกาต่าง ๆ ที่มันเข้มงวดเกินไปสำหรับนักท่องเที่ยว
ข้อ3 ลดราคาค่าตั๋วเครื่องบินที่บินมาจากเมืองนอก มาเมืองไทยวิธีการง่าย ๆ เอาค่าตั๋วเครื่องบินที่จ่ายไปลดภาษีได้
ข้อ4 เปิดสนามบินอู่ตะเภา รองรับเมืองใหญ่ ๆ จากยุโรปบินตรงมาอู่ตะเภาโดยไม่ต้องผ่านสุวรรณภูมิ
ข้อ5 ประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาในทวีปยุโรป อเมริกาและก็ ออสเตรเลีย แทนที่จะไปประชาสัมพันธ์พวกรัสเซียพวกจีนและก็อินเดีย มีแค่นี้แหละครับ
ฝรั่ง ไม่ชอบปัญหาการชกต่อยในบาร์ในขณะที่กำลังดื่ม ในเมื่อเมืองพัทยาก็ต้องเข้าใจว่า 90% ของฝรั่งที่มาพัทยาต้องการมาสนุกสนานมาดื่ม แต่คุณกลับปิดการบริการในส่วนที่เขาต้องการ แล้วก็บังคับขู่เข็ญทางอ้อมให้เขาไปว่ายน้ำตอนกลางวันที่ทะเล ซึ่งทะเลของคุณก็ไม่ได้สะอาดเลย

ผมขอบอกได้เลยว่า สถานการณ์ปัจจุบัน จะไม่สามารถช่วยให้มีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวยุโรปชาติอื่นมาเพิ่มอีกนอกจาก พวกรัสเซีย เพราะรัสเซียไม่มีปัญหา โดยเหตุผลที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น เมืองนี้กำลังจะถูกยึดโดยมาเฟียรัสเซีย ทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาโสเภณี และปัญหาการล้างแค้นระหว่างพวกแก๊งต่าง ๆ หรือผู้บริหารจะคิดแต่เพียงว่าตนเองเข้ามาบริหาร เพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น พัทยาไม่ใช่ของตนเองคนเดียว
ผมหวังว่าทุกท่าน คงรักพัทยาเหมือนกับพวกเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ใช่คนไทย ….



สั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น