การเขียนบทบรรณาธิการง่ายกว่าที่คิด
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทั้งหลาย เผลอแป๊บเดียวนี่ก็ใกล้จะหมดปี
2556แล้ว สงสัยจะจริงเหมือนที่ผู้ใหญ่เค้าพูดกันว่า
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเราแก่เร็วได้อย่างไร
จริงไหมคะเพื่อน ๆ อุ๊ย อย่าพิ่งทำหน้าบึ้งกันสิคะ
แค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง ทราบค่ะว่าทุกคนกลัวแก่ ผู้เขียนเองก็กลัวเหมือนกันค่ะ แต่ใครจะหยุดเวลาได้ จริงไหมคะ
ก็ต้องยอมรับล่ะค่ะว่าต่อไปเราทุกคนก็ต้องแก่กันหมด
แต่ ขอแก่แบบมีคุณค่านะคะ ไม่ยอมแก่แบบไร้คุณค่าแน่นอนค่ะ
เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่อยากแก่แบบไร้คุณค่า ก็รีบเข้ามาทางนี้ได้เลยค่ะ เพราะเรื่องที่ นำมาบอกกล่าวกันนั้น
รับรองค่ะว่ามีสาระครบถ้วน ไม่ตกยุคแน่นอนค่ะ
เรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าค่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่า
จะขอขยายความเกี่ยวกับบทบรรณาธิการเพิ่มเติมให้อ่านกัน โดยครั้งนี้ขอเสนอประเภทของบทบรรณาธิการค่ะ
ในการเขียนบทบรรณาธิการมีหลากหลายประเภท แล้วก็สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้ค่ะ
1. แบ่งตามวัตถุประสงค์ของผู้เขียน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทใหญ่ ๆในการเขียนบทบรรณาธิการมีหลากหลายประเภท แล้วก็สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้ค่ะ
1.1 ประเภทเสนอข่าว เป็นบทบรรณาธิการที่มีลักษณะย้ำข่าวหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจในช่วงนั้น โดยไม่มีการอธิบายหรือตีความมากนัก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีเวลาพอที่จะพิจารณา หรือตัดสินใจอย่างแน่นอนว่าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารของตนเองจะมีจุดยืนอย่างไร
1.2 ประเภทให้ข่าวสารและคำอธิบายขยายความ เป็นบทบรรณาธิการที่ผู้เขียนต้องการให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยให้รายละเอียดเพิ่มเติมและมีการอธิบายขยายความอย่างเป็นลำดับขั้นตอน และชี้ประเด็นที่สำคัญที่มีแง่มุมบางอย่างที่ซับซ้อน หรือเข้าใจยาก บทบรรณาธิการประเภทนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้อ่านเกิดปฏิกิริยาหรือเป็นการกระตุ้นความคิด เพียงแต่ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจปัญหาและวิเคราะห์ได้ถูกวิธีเท่านั้นเองค่ะ
1.3 ประเภทแสดงความคิดเห็น เป็นบทบรรณาธิการที่ผู้เขียนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อข่าวหรือเหตุการณ์นั้น ๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นอาจจะเป็นการสนับสนุนหรือโต้แย้งก็ได้ แต่ยังไม่มีการให้ข้อเสนอแนะแต่อย่างใด
1.4 ประเภทแสดงทัศนะและเสนอแนะ เป็นบทบรรณาธิการที่ผู้เขียนนอกจากจะแสดงความคิดเห็นแล้ว ยังต้องมีการให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อความรับผิดชอบนั้น ๆ และผู้อ่านได้รับทราบและนำไปพิจารณาต่อไป
1.5 ประเภทโน้มน้าวและเรียกร้องให้เกิดการกระทำ เป็นบทบรรณาธิการที่เขียนขึ้นเพื่อต้องการโน้มน้าวและเรียกร้องให้เกิดพฤติกรรมที่จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ว่าผู้เขียนจะต้องชี้ให้เห็นด้วยว่าปัญหาของเหตุการณ์นั้นรุนแรงเพียงใด
1.6 ประเภทชี้แจงหรือแถลงนโยบาย เป็นบทบรรณาธิการในลักษณะการชี้แจงหรือแถลงนโยบายต่อจุดยืนของหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารนั้น ๆ
- แบ่งประเภทตามเนื้อหาของบทบรรณาธิการ
ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเภท
ดังนี้
2.1 ประเภทการเมือง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเมือง ทั้งการเมืองระดับท้องถิ่น ระดับชาติ ระดับระหว่างประเทศ
2.2 ประเภทสังคม เช่น ปัญหาแรงงาน ยาเสพติด อาชญากรรม การขายบริการทางเพศ เด็กเร่ร่อน เป็นต้น
2.3 ประเภทเศรษฐกิจ เช่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาทางการค้าและการลงทุนต่าง ๆ ทั้งในและระหว่างประเทศ เช่น การนำเข้า-ส่งออกสินค้า การขึ้นราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เป็นต้น
2.4 ประเภทเจาะหาความจริง เป็นบทบรรณาธิการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงบางอย่างที่มีเงื่อนงำ ซับซ้อน น่าสงสัย เช่น ปัญหาการทุจริตการรับเหมาสัมปทานของรัฐ เพื่อมาตีแผ่ให้ประชาชนทราบทั่วกัน
2.6 ประเภททั่วไป เป็นบทบรรณาธิการที่เขียนเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดสำนึกต่อความรับผิดชอบในสังคม
เช่น การรณรงค์ให้ประชาชนไม่ขับรถขณะมึนเมา การรณรงค์ให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทน การรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นต้น
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะว่าบทบรรณาธิการมีหลายประเภทเลย แต่ คิดว่าเพื่อน ๆ คงไม่สับสนนะคะ เพราะว่าแยกหัวข้อต่าง ๆ ไว้ให้อย่างชัดเจนแล้ว และที่สำคัญก็คือการเขียนบทบรรณาธิการไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ มาติดตามครั้งหน้ากันนะคะว่า จะนำเรื่องอะไรมาเล่าให้เพื่อน ๆ อ่านกันอีก