pearleus

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563

วิยะดากับมาร์คและวิสูตร สามคนผัวเมีย


วิยะดาเป็นสาวไทยผิวขาวสวยสูงโปร่ง ความสวยระดับนางสงกรานต์ประจำอำเภอ มาจากขอนแก่น เรียนจบมัธยมปีที่สาม เธอแต่งงานกับทหารเรือ และมีลูกสาว 1 คน อยู่ในบ้านพักทหารเรือ สัตหีบ
เมื่ออายุ 28 ปีเธอค้นพบว่าสามีของเธอเจ้าชู้ มีผู้หญิงใหม่ที่สาวกว่าและสวยกว่าเธอ วิยะดาตัดสินใจหนีมาสมัครงานเป็นพนักงานเสริฟที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยาโดยทิ้งลูกไว้ให้สามีดูแล เธอเขียนจดหมายบอกเขาว่าเธอไม่สามารถ มีชีวิตที่ต้องแชร์สามีร่วมกับหญิงอื่นได้
วิยะดาตั้งใจทำงานและขยันขันแข็ง เธออาศัยอยู่ในห้องพักของคนงานในโรงแรมแห่งนั้น เลิกงานแล้วเธอไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมโดยมีความมุ่งหวังว่าจะได้เลื่อนทำงานในตำแหน่งที่ดีขึ้นในโรงแรม
สามเดือนต่อมา วิยะดาพบกับวิสูตร หัวหน้าช่างไฟฟ้าคนใหม่ที่เข้ามาทำงานในโรงแรม วิสูตรเป็นหนุ่มหน้าตาดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งสองสนิทสนมกันรวดเร็ว เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีพันธะ

 
วิยะดาบอกว่าเป็นรักครั้งแรกของเธอ เพราะสามีที่แต่งงานด้วยเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่หลังจากแต่งงานเธอก็รักและให้เกียรติเขา ถือว่าโชคดีที่มีสามีเป็นข้าราชการ
วิสูตรเช่าอพาตเมนต์อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนัก หลังเลิกงานบางวันวิยะดาก็ไปทำกับข้าวทานกันสองคนที่ห้องของเขา เธอเล่าว่าวิสูตรเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยฉวยโอกาส วิยะดาเล่าเรื่องสามีเดิมและลูกสาวให้วิสูตรฟัง เขาเข้าใจและเห็นใจเธอมาก
วิยะดาเคยไปรับลูกสาว(น้องกวาง)มาที่ทำงานและแนะนำให้รู้จักวิสูตร ต่อมา ทั้งคู่ก็พาน้องกวางไปเที่ยวทะเลทุกวันหยุด
โดยที่สามีเก่าของวิยะดาก็ไม่ขัดขวาง วิสูตรให้ความช่วยเหลือยามที่วิยะดาขัดสนเงินทอง เพราะเธอต้องส่งเสียเงินทองให้ทางบ้านที่ขอนแก่น และต้องช่วยค่าใช้จ่ายลูกสาวด้วย
วิสูตรและวิยะดารักกันมาก วางแผนเก็บเงินแต่งงานกัน จนเพื่อน ๆในโรงแรมต่างชื่นชมความเป็นคนดีของทั้งคู่ที่ยังนับถือประเพณีไทย ไม่อยู่กินกันก่อนแต่งงาน
ในที่สุดทั้งคู่ก็เข้าสู่ประตูวิวาห์ โดยจัดพิธีแต่งงานที่บ้านของวิยะดาที่ขอนแก่น เธอเล่าว่าบ้านเธอเป็นบ้านยกพื้นสูง เลี้ยงควายหลายตัวไว้ใต้ถุนด้วย วันแต่งงานมีชาวบ้านมาร่วมพิธีและแสดงความยินดีมากมาย วิสูตรได้รับการยอมรับนับถือ จากญาติพี่น้องเป็นอย่างดี
หลังแต่งงานทั้งคู่ก็กลับมาทำงานที่โรงแรมแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้องของวิสูตร ต่อมาวิยะดาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาทำงานที่ ฟร้อนออฟฟิศ เป็นรีเซฟชั่น รับลูกค้า เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ส่วนวิสูตรก็ได้รับงานพิเศษ ทำร่วมกับเพื่อน ๆ โดยรับติดตั้งระบบไฟฟ้าให้แก่หมู่บ้านจัดสรรในเมืองพัทยา ทั้งคู่เก็บหอมรอมริบ เพื่อต้องการมีบ้าน มีรถ มีเงินเก็บเหมือนกับคู่สามีภรรยาทั่ว ๆ ไป
วิยะดามีเพื่อนที่แต่งงานกับคนต่างชาติและเธอได้มีโอกาสเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้หญิงพัทยาที่โชคดี ได้แต่งงานเป็นมาดาม มีรถโก้ ๆ ขับอวดกัน มีบ้านหลังใหญ่ มีสระว่ายน้ำ มีเงินส่งไปให้พ่อแม่สร้างบ้านหลังใหญ่โตที่ต่างจังหวัด มีมือถือรุ่นล่าสุด วิยะดาไม่ชอบไปเดินห้างกับเพื่อน ๆ เหล่านี้ เพราะเธอทำได้แค่ช่วยเพื่อนถือของ เธอต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เธอมักจะบอกเพื่อนเสมอว่า”เกรงใจสามี” เงินเค้าหาเป็นส่วนใหญ่ เพื่อน ๆ ชอบวิยะดาเพราะเธอเป็นคนสวย พูดจาอ่อนหวาน ไม่เห็นแก่ตัว และทำอาหารอร่อย
วิยะดาทำงานที่โรงแรม เธออยู่ตรงเค้าเตอร์ มีฝรั่งมาจีบหลายคนแต่เธอไม่สนใจ เพราะส่วนใหญ่เป็นฝรั่งแก่ ขี้เมา หิ้วผู้หญิงทุกคืน วิยะดาทำงานอยู่นานพอที่จะแยกแยะว่าฝรั่ง ดี ฝรั่งขี้นก แตกต่างกันอย่างไร
วิสูตรไม่เคยแสดงความหึงหวง เพราะเขารักและไว้ใจเธอ  ทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่แต่งงานกันมาเกือบ 3 ปีแล้ว
วันหนึ่งสามีเก่าของวิยะดาแวะมาหาเธอที่โรงแรมและบอกว่าเขาต้องย้ายไปทำงานกรุงเทพ ไม่สามารถพาลูกสาวไปอยู่ด้วยวิยะดาต้องการรับลูกสาวมาอยู่ด้วย วิสูตรจึง หาบ้านเช่า 2 ห้องนอน ในย่านที่ไกลออกมาจากสถานบันเทิงต่าง ๆ เพราะน้องกวางเริ่มโตเป็นสาวแล้ว วิยะดาต้องดูแลลูก ทำอาหารเช้า เธอขับมอเตอร์ไซต์ไปส่งลูกที่โรงเรียน แล้วไปทำงานเลิกงานแล้วไปรับลูกตอนเย็นและอยู่บ้านเป็นเพื่อนลูก ไม่สามารถทำงานกะกลางคืนได้อีกต่อไป น้องกวางเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในพัทยา ค่าเล่าเรียนค่อนข้างแพง แต่วิยะดาต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก
เมื่อมีลูกมาอยู่ด้วย สองสามี ภรรยาก็ไม่มีเวลาเป็นของตนเอง เวลาทำงานก็ไม่ตรงกัน ความอึดอัดเริ่มก่อตัว แต่ทั้งคู่ก็เลือกที่จะไม่พูดถึง ต่างคนต่างพยายามอยู่กับบรรยากาศที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปนี้
บางวันวิสูตรก็เลิกงานแล้ว ไปดื่มต่อกับเพื่อนที่ทำรับเหมาติดตั้งไฟฟ้าด้วยกัน วิยะดาปรึกษาเพื่อนที่มีสามีฝรั่ง ทุกคนก็แนะนำไปในทิศทางเดียวกันคือ “เลิกเลย ยังสวย หาแฟนฝรั่งดีกว่า” ทำไมยังทำงานงก ๆ 5 ปีแล้ว ยังไม่มีอะไรเลย จะกินความรักไปถึงไหน ความรักกินไม่ได้นะ พอมีเงินแล้วความรักก็มาเองแหละ” วิยะดาเข้าใจดีว่าเพื่อนหมายถึงอะไร เพราะเพื่อนเธอส่วนใหญ่ก็มีแฟนคนไทย เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เวลาสามีฝรั่งไม่อยู่ก็มีกิ๊กคนไ ทยซึ่งเธอรังเกียจการกระทำเช่นนั้นมาก ๆ


อย่างไรก็ตาม ฟ้าได้ลิขิตชีวิตของวิยะดาให้มาเจอกับมาร์ค หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบกว่า ๆ โดยเขามาพักที่โรงแรม มาร์คเป็นชาวอังกฤษ สุภาพ แต่งตัวสะอาดสะอ้าน พูดจาเสียงนุ่ม ๆ เขาแสดงออกทันทีว่าชอบวิยะดา มาร์คทำงานให้กับบริษัทขุดเจาะน้ำมัน มีเงินเดือนและสวัสดิการสูงมาก ทุกครั้งที่มาเช็คอินเข้าพักที่โรงแรมเขามักจะซื้อของแพง ๆ มาฝาก
วิยะดาสังเกตว่ามาร์คไม่เคยพาผู้หญิงมาพักด้วยเลย เพื่อน ๆ หลายคนสนับสนุน แต่วิยะดาไม่กล้าทรยศต่อวิสูตร เธอออกไปทานข้าวกับมาร์คในร้านอาหารหรู ๆ สองสามครั้ง ในคืนที่วิสูตรต้องออกไปทำงานกับเพื่อน
เหตุการณ์ เริ่มยุ่งเหยิงมากขึ้น เมื่อวิยะดาได้เล่าเรื่องให้มาร์คฟังเกี่ยวกับครอบครัวสามีคนแรกที่เธอต้องดูแลลูก แต่เธอเล่าว่ามีพี่ชายทำงานอยู่พัทยาเป็นช่างไฟฟ้าทำรับเหมาก่อสร้าง เธอเล่าถึงความลำบากของการเลี้ยงดูให้การศึกษาลูกสาว การที่ต้องส่งเสียครอบครัว ในที่สุดเธอก็รับความช่วยเหลือจากมาร์คซึ่งเข้าใจวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี วิยะดาตกลงใจเป็นแฟนของมาร์คและมีความสัมพันธ์กันอย่างเงียบ ๆ เธอคิดว่าเธอไม่ผิดเพราะความเดือดร้อนทำให้เธอเลือกทำเช่นเดียวกับผู้หญิงพัทยาทั่วๆ ไป มาร์คกลับไปทำงาน หนึ่งเดือน แล้วกลับมาหาเธอ 2-3 อาทิตย์
ความสัมพันธ์ประเภทสามคนผัวเมีย เริ่มสร้างความอึดอัดใจให้แก่วิยะดามากขึ้น เช่นมาร์คต้องการแต่งงาน ต้องการไปเยี่ยมครอบครัวเธอ แต่เธอหาคำตอบที่เหมาะสมให้เขาไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม วิยะดาไม่ได้มีแต่รูปสมบัติเป็นทรัพย์ เท่านั้น เธอยังเป็นคนฉลาดและมีมนุษย์สัมพันธ์ชั้นยอด วิยะดาสามารถทำให้เพื่อน ๆ รักและเห็นใจเธอ แม้แต่เพื่อนที่ขี้อิจฉาที่สุดในกลุ่มก็ไม่เคยปริปากเล่าเรื่องความลับของเธอให้วิสูตรและมาร์คฟัง

วันเวลาผ่านไปเป็นปี ที่วิยะดาทนเก็บความลับนี้ไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อวิสูตรเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซต์ชนกับรถมอเตอร์ไซต์ของคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส เขาไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย และอาจจะต้องถูกฟ้องร้อง วิยะดาโทรศัพท์ทางไกล ขอความช่วยเหลือจากมาร์คโดยบอกว่าวิสูตรคือพี่ชาย มาร์ครับช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด บุญคุณนี้วิสูตรคงไม่สามารถลืมได้ และเหตุการณ์ลักษณะช่วยเหลือวิยะดาและวิสูตร นี้ดำเนินติดต่อกันมาเรื่อย ๆ ด้วยการกำกับของวิยะดา ในที่สุดวันที่วิยะดาพามาร์คไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดก็มาถึง วิสูตร หนุ่มช่างไฟฟ้าผู้เป็น”พี่ชาย”ตามความเข้าใจของมาร์คไม่ว่างไม่สามารถไปด้วยได้
วิยะดาจึงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่เลือกที่จะไม่ออกความเห็นเพราะเชื่อว่าวิยะดาสามารถเลือกทางเดินของชีวิตตนเองได้ คืนแรกและคืนเดียวที่มาร์คได้ไปสัมผัสชีวิตชนบท เขาตกใจตื่นตอนดึกเพราะเจ้ากระบือที่เลี้ยงใต้ถุน เอาสีข้างถูกับเสาบ้านทำให้บ้านสั่นสะเทือน เธอกล่าวขำ ๆ ว่า นี่คือสาเหตุที่ 3 เดือนต่อมามาร์คตัดสินใจปลูกบ้านให้ครอบครัวเธอใหม่ เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านนั้น มีโรงนาให้วัวควายแยกต่างหาก

ต่อมา มาร์คต้องการแต่งงานกับวิยะดาให้ถูกต้องตามกฎหมาย วิยะดาและวิสูตรจึงได้จดทะเบียนหย่ากัน และวิยะดาได้เข้าสู่พิธีแต่งงานเป็นครั้งที่สามในชีวิตของเธอ มาร์คได้ซื้อบ้านหลังสวยเป็นเรือนหอ เป็นบ้าน 5 ห้องนอน มีห้องนั่งเล่นใหญ่โต มีห้องคาราโอเกะ มีบาร์ดื่มในห้องอาหาร วิยะดาชอบทำอาหารเลี้ยงเพื่อนฝูง การจัดปาร์ตี้ ต้อนรับและเลี้ยงส่งสามีฝรั่งจึงเป็นประเพณีนิยมที่แก้งค์เพื่อน ๆ ของเธอนำไปปฏิบัติตาม มาร์ครักและภูมิใจในตัววิยะดามาก เขาซื้อรถเก๋งราคาแพงให้เธอขับไปรับส่งลูกไปโรงเรียน น้องกวางได้ย้ายไปเรียนในโรงเรียนเอกชนที่แพงขึ้นในอำเภอศรีราชา(สำหรับลูกเศรษฐีในเมืองพัทยา)

ไลฟ์สไตล์ของวิยะดาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอจ้างแม่บ้านสองคน คนหนึ่งทำความสะอาด ซักรีด อีกคน ไปตลาด เป็นแม่ครัว ยังไม่พอแค่นั้น

 เธอได้รับเอาป้า น้า อา และลุงจากต่างจังหวัดมาอยู่ด้วย เป็นคนสวนบ้าง ขับรถให้เธอไปช็อปปิ้งที่กรุงเทพฯบ้าง ล้างรถบ้าง พอมีสมาชิกครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ก็มีการทำอาหารอิสาณทำส้มตำกินกันบางทีก็มีเพื่อน ๆ ของวิยะดามาแจม บางวันก็ตั้งวงเล่นไพ่กันเวลามาร์คไปทำงานต่างประเทศ

ต่อมามาร์คอึดอัดกับบรรยากาศในบ้านแต่ไม่สามารถสื่อสารให้วิยะดาเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกันได้ วิยะดาจึงแก้ปัญหาโดยการต่อเติมบ้านเพิ่มเป็นบ้านแฝด อีกหลังหนึ่งให้ญาติพี่น้องอยู่ การบริหารจัดการบุคลากรในบ้านนี้ได้รับการแนะนำจากวิสูตร เพราะหลังจากวิยะดาแต่งงานแล้วย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ วิสูตรได้ย้ายไปอยู่บ้านที่ขอนแก่น คอยดูแลพ่อแม่และครอบครัวของวิยะดา รวมถึงดูแลผลผลิตทางการเกษตรที่ครอบครัวของวิยะดายังยึดเป็นอาชีพอยู่ ค่าใช้จ่ายของสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของมาร์คแต่เพียงผู้เดียว


เมื่อมาร์คกลับมา บ้านทั้งหลังจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ แม้แต่ในห้องน้ำ วิยะดานำเอารสนิยมการจัดห้องของโรงแรมมาใช้ในบ้าน เธอทำให้มาร์คมีความสุขโดยการเอาใจเขาทุกอย่าง มาร์คเป็นคนสูบบุหรี่จัด เขาสูบบุหรี่มวนต่อมวน เมื่อที่บ้านจัดปาร์ตี้ พวกเพื่อน ๆ ฝรั่ง ทั้งผู้ดี ทั้งขี้นก ทั้งที่ได้รับเชิญหรือไม่ได้รับเชิญ ต่างก็มากันตั้งแต่หัวค่ำ ช่วยกันปิ้งย่างบาร์บีคิว กินดื่มกันเรียกว่า ไม่มีเกรงใจเจ้าภาพเลย บรรดาเมีย ๆ ทั้งหลายก็เม้าท์กันเรื่อง ผัวใครรวยที่สุด หล่อที่สุด รักเมียมากที่สุด(อย่างหลังนี้ก็เป็นการโชว์เครื่องประดับ รวมถึงเสื้อผ้ากระเป๋าที่เป็นแบรนด์ดังต่าง ๆ เรียกว่าสังคมไฮโซชั้นสอง)

สภาพการใช้ชีวิตแบบนี้ทำให้วิยะดา ปรับตัวเข้าได้อย่างรวดเร็ว เธอเลือกที่จะคบเพื่อนหลากหลาย เธอมีเพื่อนที่เธอไปออกกำลังกายด้วย มีเพื่อนที่สโมสรเต้นรำ เพื่อนที่ชอบไปคาราโอเกะ เพื่อนต่างกลุ่มเหล่านี้จะไม่ได้รับเชิญไปในงานเดียวกัน
เมื่อมาร์คกลับไปทำงาน วิสูตรก็กลับมาจากขอนแก่น มาอยู่กับวิยะดา

เมื่อถามว่าเธอไม่รู้สึกเหนื่อยหรือที่ต้องมีชีวิตแบบนี้ วิยะดายิ้มบาง ๆและบอกว่า “ก็มีบ้างแต่ก็ยังดีกว่าตอนที่ต้องลำบาก ทำงาน ขี่มอเตอร์ไซต์ไปรับส่งลูกไปเรียน ไปทำงานและกระเบียดกระเษียน เก็บเงินให้ลูกได้เรียนหนังสือโรงเรียนดี ๆ ต้องหาเงินส่งไปให้พ่อแม่ด้วย ตอนนี้มีหน้าที่ต้องทำสวยเท่านั้น ว่าจะไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพราะคุยกับเพื่อนๆ ของมาร์คไม่รู้เรื่องเลย”
(ยังมีต่อ)


สั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น